คริปโตมายด์ กรุ๊ป จัดงานแถลงข่าว CRYPTOMIND DECRYPT YOUR MIND เปิดเผย Roadmap ของ คริปโตมายด์ กรุ๊ป รวมถึงร่วมถอดรหัสหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น เทรนด์การลงทุนปี 2024, กลยุทธ์การบริหารจัดการพอร์ต, แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจในโลกเศรษฐกิจการเงินยุคใหม่, พร้อมมุมมองภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย
คุณสัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทคริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ระบุว่า Cryptomind เติบโตอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็ว พร้อมผลักดันไทยขึ้นเป็น Web3 hub ของเอเชียต่อไป โดยในปีนี้ เล็งจัดงาน Blockchain Genesis ครั้งใหญ่ที่สุด ภายใต้ชื่อ Thailand Blockchain Week, Genesis 2024 ในวันที่ 9-10 เดือนพฤศจิกายน ที่ Emsphere ตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมงาน 8,000 คน นอกจากนี้ คริปโตมายด์ยังได้ความเชื่อมั่นจากนักลงทุน โดยสามารถระดมทุนได้ 120 ล้านบาท จาก Beacon Venture Capital, Avaiary Asia Capital และ Hashkey ส่วนเทรนด์การลงทุนในปี 2024 นี้
คุณพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด เปิดเผยว่าตอนนี้ตลาดเป็น Bull run แล้ว โดยประเมินว่าในรอบนี้ bull run จะคงอยู่ประมาณ 400-650 วัน ส่วน Bitcoin จะพุ่งไปที่ 120k-200k
คุณพีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัทคริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวว่า เทรนด์การลงทุนกำลังเปลี่ยนไป โดยบริษัทแนะนำการลงทุนชั้นนำระดับโลกเริ่มแนะนำให้เข้าถือคริปโตในพอร์ตการลงทุนแล้ว และเมื่อย้อนดูสถิติการลงทุนในอดีตจะเห็นได้ว่า พอร์ตที่ถือสินทรัพย์คริปโตเพียง 1-5% ก็สามารถทำกำไรได้มากกว่าพอร์ตที่ไม่ถือ ขณะที่ความเสี่ยงเพิ่มเข้ามาไม่มากนัก
คุณ มานะ คานิโยว หัวหน้าฝ่ายผู้แนะนำการลงทุนของ เมอร์เคิล แคปปิตอล ได้มาแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนของเมอร์เคิล ที่สอดคล้องกับเทรนด์การลงทุนในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่ลงทุนใน Bitcoin หรือ Altcoin เป็นหลัก พร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Trigger ที่ตั้งเป้าจะสร้างผลตอบแทน 20% ภายใน 6 เดือน แต่หลังจากเปิดมาสองครั้ง สามารถทำผลตอบแทน 20% ได้ภายใน 48 วัน และ 20 วันตามลำดับ นับว่าดีกว่ากำหนดเวลาที่ตั้งไว้อย่างมาก
ปิดท้ายด้วย panel discussion พูดคุยเรื่องการสร้างโปรเจกต์ web 3.0 ในระดับ global โดยทีมงาน Cryptomind โดยชี้ว่า การทำโปรเจกต์ระดับ global นั้นจะต่างกับแบบ local ด้วยฐานลูกค้าที่กว้างกว่ามาก แต่ก็แลกมาด้วยการแบกรับแรงกดดันที่มากกว่า
หลังจบงานยังมีช่วงเวลา networking พร้อมอาหารและเครื่องดื่มแบบจัดเต็ม เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ใช้เวลาพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองในโลกคริปโตกัน