นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในโลกคริปโตทั้ง Bitcoin แล้วก็พวก Initial Coin Offering (ICO) มักจะมีเรื่องที่คิดถึงอยู่ด้วยกันสองเรื่องคือ คิดว่าตัวเองจะได้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้เท่าไหร่ และคิดว่าในการลงทุนแต่ละครั้ง มีความเสี่ยงจากการลงทุนเท่าไหร่
จริงๆ ความเสี่ยงถือเป็นเรื่องปกติของนักลงทุน ไม่มีการลงทุนแบบใดที่ไม่มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงที่ว่านั้นอาจจะเพิ่มขึ้นแบบไม่คาดคิดถ้าหากว่าพลาดไปลงทุนในโปรเจกต์ที่เป็นแชร์ลูกโซ่ (Ponzi) หรือว่าแบบพิระมิด (Pyramid)
ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะเข้าใจถึงลักษณะและหลักการของโปรเจกต์แบบ Ponzi และ Pyramid
โปรเจกต์แบบ Ponzi คืออะไร ?
โครงการแบบ Ponzi ตั้งชื่อตาม Charled Ponzi ชาวอิตาลีที่ย้ายไปสร้างชื่อเสียงด้วยการหลอกลวงนักลงทุนในทวีปอเมริกาเหนือในช่วงปี 1920 Ponzi สามารถหลอกลวงนักลงทุนได้หลายร้อยคนด้วยโมเดลธุรกิจแบบ Ponzi ของเขา
โปรเจกต์แบบ Ponzi จะมีลักษณะดังนี้
- เจ้าของโปรเจกต์จะเริ่มต้นด้วยการโฆษณาว่า ถ้าคุณลงทุนด้วยจำนวนเงิน 1,000 ดอลลาร์ คุณจะได้รับผลกำไรเป็นจำนวน 10% พร้อมกับเงินต้น ภายในระยะเวลา 90 วัน
- ถ้าหากว่าเจ้าของโปรเจกต์สามารถหานักลงทุนได้ 3 คน เขาก็จะสามารถนำเงินลงทุนจากคนที่ 2 และ 3 ไปจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนคนแรกได้ และเขาก็จะได้รับความเชื่อใจจากนักลงทุนคนแรก แล้วนักลงทุนคนแรกก็จะนำเงินมาลงทุนต่อ วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
- เมื่อได้รับเงินจากนักลงทุนคนใหม่ๆ เจ้าของโปรเจกต์ก็จะเอาเงินของคนใหม่ๆ ไปจ่ายคนเก่า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
- เมื่อโปรเจกต์เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ มีนักลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่ง ก็จะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้กับนักลงทุนได้แล้ว และเจ้าของโปรเจกต์ก็จะหนีไปในที่สุด ทิ้งให้นักลงทุนเฝ้ามองเงินของตัวเองที่ลอยหายไป
แล้วโปรเจกต์แบบ Pyramid คืออะไร
โปรเจกต์แบบ Pyramid คือรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เจ้าของสัญญาว่าจะให้ค่าตอบแทนแก่สมาชิกที่สามารถหานักลงทุนหน้าใหม่ๆ มาสมัครกับทางธุรกิจได้
ยกตัวอย่างเช่น
นาย A ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ได้รับนาย B และ C เข้ามาสมัคร พร้อมชำระค่าสมัครเป็นจำนวนเงิน 1,000 ดอลลาร์ โดยนาย A สัญญาว่า ถ้า B และ C สามารถหานักลงทุนหน้าใหม่ๆ เข้ามาสมัครได้ B และ C จะได้รับค่าตอบแทน 50% หรือ 500 ดอลลาร์ต่อสมาชิกหน้าใหม่ 1 คน
และถ้าหากว่ามีสมาชิกมาสมัครต่อเรื่อยๆ B และ C ก็จะได้รับส่วนแบ่งจากการสมัครนั้นๆ ต่อไปแบบไม่รู้จบ
เมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อธุรกิจเริ่มมีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึงจุดหนึ่ง ก็จะเป็นการยากที่จะหานักลงทุนหน้าใหม่ๆ เข้ามา และล่มสลายในที่สุด
โปรเจกต์แบบ Pyramid จะมีเพียงแต่นักลงทุนรายแรกๆ เท่านั้นที่จะได้กำไร และนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาที่หลัง ก็จะสูญเสียเงินลงทุนของตัวเองทั้งหมด
Ponzi vs Pyramid
โมเดลของทั้งสองแบบคล้ายๆ กันคือ ใช้ผลกำไรที่น่าดึงดูดใจในการหลอกลวงนักลงทุนให้เข้ามาทำการลงทุน และทั้งสองแบบจำเป็นที่จะต้องมีนักลงทุนหน้าใหม่ๆ เข้ามาอยู่เสมอเพื่อให้โปรเจกต์ไปต่อได้
นอกจากนี้ ทั้ง Ponzi และ Pyramids มักจะไม่มีสินค้าหรือบริการอยู่จริง
แต่ความแตกต่างก็คือ
Ponzi มักจะวางตัวเป็นบริการบริหารจัดการเงินลงทุน ที่ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าพวกเขาจะได้รับผลกำไรจากการลงทุน
Pyramid มักจะเกี่ยวข้องกับการหาลูกข่าย (Network Marketing) ให้เข้ามาสมัครผ่านตัวแทน หรือที่เรียกกันว่า Referral Program โดยแม่ข่ายจะได้รับผลกำไรเป็นค่าคอมมิชชั่น (Commission)
วิธีป้องกันตัวจากการตกเป็นเหยื่อของ Ponzi และ Pyramid Schemes
- รู้จักระแวดระวัง อย่าหลงเชื่อโปรเจกต์หรือธุรกิจที่โฆษณาว่าให้ผลตอบแทนสูงด้วยเงินลงทุนต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นโปรเจกต์หลอกลวง
- ระวังโอกาสที่ได้มาง่ายๆ หรือเราไม่ได้เป็นคนขอไป โดยปกติแล้วโปรเจกต์แบบ Ponzi และ Pyramid มักจะมาในแบบที่เราไม่คาดคิด จากการเชิญชวนโดยคนใกล้ตัว คนรู้จัก หรือการโฆษณาผ่านทางแพลตฟอร์มต่างๆ
- ตรวจสอบเจ้าของโปรเจกต์ บรรดาโปรเจกต์ที่ถูกกฏหมายควรจะสามารถตรวจสอบได้และมีการลงทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวบริษัทเอง หรือจะเป็นบรรดานายหน้าก็ตาม
- ลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรู้จัก เป็นเรื่องปกติที่เราไม่ควรจะลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้เพียงเพราะว่ามันให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ
- รายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากพบเจอโปรเจกต์ที่คล้ายว่าจะเป็น Ponzi หรือ Pyramid เพื่อป้องกันตัวเองและช่วยให้ไม่มีเหยื่อเพิ่มเติม
แล้ว Bitcoin กับคริปโตเป็นโปรเจกต์ Ponzi หรือ Pyramid หรือไม่
บางคนอาจจะบอกว่า Bitcoin เป็นโปรเจกต์ Pyramid ขนาดใหญ่ แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น Bitcoin เป็นเพียงสกุลเงินดิจิทัลที่มีความเป็น Decentralized โดยมีการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Algorithm ที่ใช้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ และสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้เหมือนกับสกุลเงินอื่นๆ ถึงแม้ว่าคริปโตจะสามารถนำมาใช้กับ Ponzi และ Pyramid ได้ แต่ก็ไม่ได้ความว่าคริปโตทุกชนิดจะเป็น Ponzi หรือ Pyramid เสมอไป