Michael Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy ให้สัมภาษณ์กับ CNBC หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัท โดยมีการพูดถึงปัจจัย 3 ข้อที่จะทำให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นในระยะสั้นและระยะกลาง
Saylor ระบุว่า ปัจจัยแรกสุดคืออุปทานจะลดลงอย่างมาก ขณะที่อุปสงค์จะเพิ่มสูงขึ้น ตัวอย่างเช่นกลุ่มนักขุดจำเป็นต้องขาย Bitcoin เพื่อจะขุดต่อไปได้ โดยการเทขายดังกล่าวมีมูลค่าประมาณเดือนละ 1 พันล้านดอลลาร์ แต่เมื่อเกิด halving ในเดือนเมษายน 2024 เหรียญที่มีให้ขายจะเหลือเพียงครึ่งเดียว
“ไม่ช้าเราจะเห็นว่าการขายตามปกติปีละ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ จะเหลือเพียง 6 พันล้านดอลลาร์ ในเวลาเดียวกันนั้น Spot Bitcoin ETF จะเข้ามาเพิ่มแรงกดดันในการซื้อ Bitcoin มากขึ้น
ปัจจัยข้อที่สองก็คือ อีกไม่นานจะมีกฎใหม่สำหรับวัดมูลค่ายุติธรรม (fair value accounting) ของบริษัทที่ถือครอง Bitcoin
และสุดท้าย Saylor ระบุว่า “ข่าวต่าง ๆ ในปัจจุบัน รวมถึงคดีฉ้อโกงของ Sam Bankman-Fried การที่คริปโตเป็นสินทรัพย์ไม่จดทะเบียน ผู้ดูแลสินทรัพย์คริปโตที่ไม่น่าเชื่อถือ ต่างเป็นเหมือนตัวฉุดรั้ง Bitcoin ถ้าจะให้อุตสาหกรรมพัฒนาไปอีกระดับ เราต้องเปลี่ยนไปสู่การกำดับดูแลที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”
“เมื่อเราหนีจากโทเค็นต่าง ๆ ที่เบี่ยงเบนความสนใจไปจาก Bitcoin และทำลายมูลค่าของผู้ถือได้ ผมก็คิดว่าเราจะก้าวไปสู่อีกขั้น และ Bitcoin จะมีมูลค่าเพิ่ม 10 เท่าจากตอนนี้”
Saylor ยังเสริมด้วยว่า “เราไม่มีทางมี Bitcoin มากเกินไปหรอก”
Reference: coindesk