เช่นเดียวกับการนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ตลาดการเงินมีทั้งขาขึ้น ขาลง และแบบแบน ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมทางการตลาดนี้เรียกว่า “แนวโน้มของตลาด” โดยทั่วไปแล้ว มีแนวโน้มอยู่สามประเภท ได้แก่ Bullish, Bearish และ Sideways
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเล่นวิดีโอเกมโดยที่ตัวละครของคุณกำลังวิ่งขึ้นคือ Bullrish และ Bearish คือการที่ตัวละครของคุณวิ่งลง ส่วนตอนที่ตัวละครกำลังยืนเฉยๆ คือ Sideways แนวโน้มเหล่านี้เป็นเหมือนแผนที่ของเกม ทำให้คุณรู้ว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด แต่อย่าลืมว่าแผนที่ที่ว่านั้นไม่ใช่เขตแดนของคุณ การพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ในการเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ถอดรหัส Bull Markets
ตอนนี้ลองจินตนาการถึงตัวละครของคุณกำลังไต่ระดับความยากขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งนี้เราเรียกว่า Bull Market หรือ Bull Run หรือตลาดกระทิง หมายถึงช่วงเวลาที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน สัปดาห์ เดือน หรือแม้แต่ปี
คำๆ นี้ไม่ได้ใช้กันแค่ในตลาดหุ้น แต่ใช้กับทุกตลาดการเงินทั้ง Forex, พันธบัตร, สินค้าโภคภัณฑ์, อสังหาริมทรัพย์ และสกุลเงินดิจิทัล
เช่นเดียวกับการวิ่งขึ้นวิ่งลงในเกม จำไว้ว่าแม้แต่ในตลาดกระทิง ราคาก็สามารถขึ้นลงและผันผวนได้ ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ขึ้นอย่างเดียว ดังนั้น ในขณะที่กำลังสนุกกับการพุ่งขึ้นของราคา ก็ควรเตรียมให้พร้อมสำหรับการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นด้วย
ทำความเข้าใจ Bull Market
ลองนึกภาพตามนี้ ในตลาดกระทิง นักลงทุนก็เหมือนเด็กติดเกมที่หมกมุ่นอยู่กับชัยชนะต่อเนื่อง เต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับระดับที่สูงขึ้นในอนาคต ความมุ่งมั่นของกลุ่มเด็กติดเกมนี้ทำให้เกิด Snow Ball Effect ทำให้ราคาสูงขึ้น และดึงดูดนักเล่นเกมหน้าใหม่ให้เข้าร่วมสนุกมากขึ้น แต่จำไว้ว่า เช่นเดียวกับเกมที่สามารถเปลี่ยนระดับได้อย่างฉับพลัน ความรู้สึกของตลาดก็สามารถพลิกกลับได้อย่างรวดเร็ว
ตลาดคริปโตก็เหมือนกับตลาดการเงินอื่นๆ มีตลาดขาลง Bear Market และตลาดขาขึ้น Bull Market และในทางกลับกัน ดังนั้น ในตลาดกระทิง อาจรู้สึกเหมือนกำลังสนุกอยู่ในงานเลี้ยง แต่ก็ควรตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
ตรวจจับ Bull Market
เช่นเดียวกับนักเล่นเกมที่มองหาคู่มือเพื่อช่วยให้การเล่นง่ายขึ้น นักลงทุนก็มองหาตัวบ่งชี้เพื่อระบุตลาดกระทิงเช่นกัน
- เริ่มมีการไล่ราคา : แนวโน้มของราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณสำคัญของตลาดกระทิง ใช้เครื่องมือที่คุ้นเคยของคุณ เช่น เส้น MA, EMA หรือคเรื่องมืออื่นๆ เพื่อระบุแนวโน้มเหล่านี้
- ปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น : การมีส่วนร่วมของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น มักจะบ่งบอกถึงตลาดกระทิงที่มีศักยภาพ
- การเติบโตของมูลค่าตลาดรวม : การเพิ่มขึ้นของมูลค่ารวมของสกุลเงินดิจิทัลเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดกระทิง นอกจากนี้ Total Value Locked (TVL) ที่เพิ่มขึ้นก็สามารถบอกถึงสัญญาณที่ว่าได้เช่นกัน
- อารมณ์เชิงบวกของตลาด : การมองโลกในแง่ดีของนักลงทุน สามารถผลักดันราคาให้สูงขึ้นได้
- การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ : การเคลื่อนย้ายสินทรัพย์คริปโตของกระดานเทรดขาเข้าอาจบอกถึงอารมณ์เชิงลบ และการไหลออกอาจหมายถึงความรู้สึกเชิงบวก
Bull Market vs. Bear Market
เช่นเดียวกับในเกม ตลาดกระทิงคือจุดที่ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยในช่วงเวลาที่ยาวนาน ตลาดหมีคือช่วงที่ราคาลดลง ในตลาดกระทิง นักลงทุนตั้งเป้าที่จะซื้อ หรือ Long เพื่อหากำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคา ส่วนในทางตรงกันข้าม ในช่วงตลาดหมี นักลงทุนอาจเลือกที่จะ Short เพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา หรือทำการถือเงินสดเอาไว้เฉยๆ
การถือเงินสดไว้เฉยๆ อาจจะดูเหมือนการ Short แต่มันเป็นเรื่องของการปกป้องเงินของพวกเขามากกว่า และจำไว้ว่า เช่นเดียวกับการเติมเกมใช้ระบบพรีเมี่ยม การเปิดสถานะ Long หรือ Short ก็มีค่าธรรมเนียมเช่นกัน
ดังนั้น ในขณะที่คุณกำลังเริ่มต้นเส้นทางการลงทุน การทำความเข้าใจแนวโน้มของตลาดเหล่านี้อาจะเป้นอาวุธลับของคุณได้ แต่จำไว้ว่า เช่นเดียวกับทุกเกมที่ต้องใช้กลยุทธ์และความระมัดระวัง โลกของการลงทุนก็เช่นกัน ทำการบ้านของคุณเสมอ และเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่คุณอาจจะต้องเจอ
วิธีหาโอกาสจากตลาดกระทิง
กลยุทธ์ “Buy and Hold”
ลองจินตานการถึงการหาของอยากในเกม ซึ่งจะมีค่ามีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แนวคิดนี้ก็สามารถใช้กับตลาดคริปโตได้เช่นกัน กลยุทธ์นี้หมายความว่าคุณซื้อคริปโตที่คุณชอบ และถือเอาไว้โดยคาดหวังว่าราคาของพวกมันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เหมือนกับการมีไอเทมหายากและเก็บมันเอาไว้ใช้กับบอสในด่านสุดท้ายของเกม คุณต้องใช้ความอดทนและแผนระยะยาวเนื่องจากราคาสามารถผันผวนได้ในระยะสั้น
ซื้อหลุม
เช่นเดียวกับการที่คุณรอให้เกมโปรดของคุณวางจำหน่ายก่อนที่จะซื้อ คุณสามารถรอให้มันลดราคาก่อนค่อยซื้อมาเล่นก็ได้ การซื้อคริปโตตอนที่ราคามันถูกในช่วงขาลง หรือซื้อหลุมในตลาดหมี และรอไปขายในช่วงตลาดกระทิง ก็เหมือนกับการซื้อเกมโปรดตอนที่มันลดราคานั้นแหละ แต่ระวังเอาไว้ เพราะซื้อหลุมแล้ว อาจมีหลุมกว่า
Dollar-Cost Averaging (DCA)
ลองนึกภาพว่าพึ่งได้เกมใหม่มา และตัดสินใจที่จะเล่นมันวันละ 2 ชั่วโมงทุกวัน โดยไม่สนว่าจะเล่นไปถึงด่านไหนแล้ว กลยุทธ์ DCA ก็เหมือนกัน คุณลงทุนด้วยจำนวนเงินที่คงที่ในคริปโตที่คุณชื่นชอบตามช่วงเวลาที่กำหนด เช่น รายสัปดาห์หรือรายเดือน โดยไม่สนว่าราคามันจะขึ้นหรือลง
Swing Trading
เช่นเดียวกับเควสเสริมที่ให้รางวัลเป็นครั้งคราว Swing Trading ก็เหมือนกับการใช้ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้นภายในตลาดกระทิง เหมือนกับการที่คุณ ได้แล้วหนี คุณเข้ามา ทำกำไร และออกไปใช้ชีวิต ก่อนที่อะไรๆ จะพลิกผัน ด้วยการใช้เครื่องมือที่คุณมีหรือเทคนิคที่คุณถนัดในการทำกำไร
การบริหารความเสี่ยง
เช่นเดียวกับการสวมใส่เซ็ตไอเทมแบบจัดเต็มก่อนที่จะไปสู้กับบอส การจัดการความเสี่ยงที่ดีพอจะช่วยปกป้องการลงทุนของคุณในตลาดกระทิง ใช้ Stop-Loss เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น จัดการขนาดการลงทุนอย่างชาญฉลาด และไม่เสี่ยงมากเกินกว่าที่จะเสียได้
Bull Market ในอดีต
เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวภายในเกมที่ทุกคนต่างก็จำกันได้มั้ย ? เช่นเดียวกันกับตลาดกระทิง ตัวอย่างเช่นในยุค Roaring Twenties เมื่อราคาหุ้นพุ่งสูงในสหรัฐฯ หรือยุคฟองสบู่ดอทคอมในช่วงปลายยุค 90 ที่ทุกคนตื่นเต้นกับอินเตอร์เน็ตมาเกินไป เมื่อปี 2017 ก็เป็นตลาดกระทิงที่น่าจดจำสำหรับ Bitcoin เมื่อราคาพุ่งจาก 1,000 ดอลลาร์เป็น 20,000 ดอลลาร์ หรือจะเป็นตลาดกระทิงในช่วงปี 2020-2021 ที่ DeFi และ NFTs ได้ผลักดันให้ราคาของคริปโตพุ่งสูงขึ้นจนมูลค่ารวมของตลาดแต่ 3 ล้านล้านดอลลาร์
ความเสี่ยงในตลาดกระทิง
เคยไหมที่เล่นเกมแล้วบางด่านของเกมดูเหมือนจะง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยกับดัก ตลาดกระทิงก็คล้ายกัน และนี้คือสิ่งที่ต้องระวัง
ความผันผวน (Volatility)
แม้ว่าตลาดกระทิงโดยทั่วไป ราคาจะมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ราคาก็สามารถแกว่งไปมาอย่างรุนแรงได้เช่นกัน อาจทำให้คุณขาดทุนได้หากไม่มีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ
มั่นใจมากเกินไป (Overconfident)
เมื่อนักลงทุนทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ลงทุนด้วยความมั่นใจมากเกินไป ซึ่งนำไปสู่การรับความเสี่ยงที่มากเกินไป แต่โปรดจำไว้ว่า เช่นเดียวกับความยากของเกมที่สามารถเพิ่มขึ้นได้โดยไม่คาดคิด ตลาดก็สามารถเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลงได้อย่างรวดเร็ว
สินทรัพย์ราคาสูงเกินไป (Overvaluation)
เมื่อมูลค่ารวมของตลาดสูงขึ้น สินทรัพย์บางอย่างอาจมีมูลค่าสูงเกินจริงได้ เหมือนกับเกมราคาแพงที่ไม่สนุกเหมือนที่โฆษณาเอาไว้ หากคุณไปซื้ือในราคาที่สูงเกินจริง คุณอาจขาดทุนเมื่อราคากลับเข้าสู่ปกติ
FOMO
ในช่วงตลาดกระทิง เป็นเรื่องง่ายที่นักลงทุนจะซื้อตามคนอื่นเพราะกลัวจะตกรถ แต่การตัดสินใจที่เร่งรีบและขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อาจนำไปสู่การลงทุนที่ไม่ตรงกับเป้าหมายทางการเงินและการยอมรับความเสี่ยงคุณ
ตลาดกระทิงนั้นโดดเด่นด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับความเชื่อมั่นในเชิงบวก ที่อาจเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุน แต่จำไว้ว่า เช่นเดียวกับเกมที่ซับซ้อนทุกเกม มันจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ มีการมองการณ์ไกล และความระมัดระวัง รู้จักหาความรู้ด้วยตัวเอง วางแผน และจับตาดูความเปลี่ยนแปลงของตลาดอยู่เสมอ และมีความสุขในการลงทุน