KEY TAKEAWAYS
- บัตรเครดิตเป็นตัวช่วยทางการเงินที่หากใช้ให้ดีก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย หรือได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
- บัตรเครดิตมีทั้งแบบเครดิตเงินคืน (Cash Back) และแบบสะสมแต้ม ซึ่งก็จะเหมาะกับลูกค้าคนละแบบ เราควรถามตัวเองให้แน่ใจก่อนสมัครบัตรเครดิตว่าปกติแล้วเราใช้จ่ายแบบใด
บัตรเครดิต ตัวช่วยทางการเงินสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ด้วยสิทธิประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็น เครดิตเงินคืน (Cash Back) สะสมแต้มไปแลกสินค้าและบริการ ผ่อนชำระ 0% และหากใช้กับร้านค้าที่ร่วมรายการก็จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะของบัตรอีกด้วย
บัตรเครดิตแบ่งออกหลัก ๆ เป็น 2 แบบ คือ บัตรเครดิตแบบ Cash Back และบัตรเครดิตแบบสะสมแต้ม ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป
บัตร Cash Back จัดว่าเป็นบัตรที่ใช้งานง่าย เพราะคืนเงินให้ตามเปอร์เซ็นต์ยอดการใช้งานเมื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไขของบัตร ไม่ต้องคอยเช็กว่าแต้มมีเท่าไหร่ หรือรูดเท่าไหร่ถึงจะได้แต้ม ส่วนบัตรสะสมแต้ม เป็นบัตรเครดิตที่จะมอบแต้มสะสมตามยอดการใช้จ่าย โดยจะมีกำหนดยอดขั้นต่ำที่จะได้แต้มไว้ ซึ่งแต้มที่ได้นี้ สามารถนำไปแลกรับส่วนลดหรือของรางวัลได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม บัตรเครดิตก็ไม่ใช่จะไม่มีข้อเสีย หากใช้ไม่ถูกวิธีและไม่มีวินัยทางการเงินแล้ว บัตรเครดิตอาจทำให้เป็นหนี้ได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากดอกเบี้ยบัตรเครดิตโดยทั่วไปจะสูงถึงปีละ 16% และยังคิดเป็นรายวันอีกด้วย
แล้วเราควรใช้อย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดล่ะ?
- จ่ายให้ตรงเวลา จ่ายยอดเต็ม และที่สำคัญ อย่าจ่ายขั้นต่ำ เพราะบัตรเครดิตจะมีระยะเวลาปลอดหนี้ หากจ่ายขั้นต่ำ ระยะเวลาปลอดหนี้* จะหมดไปทันที
- ควรผ่อนสินค้าแบบ 0% เท่านั้น
- ใช้บัตรให้ตรงกับร้านค้าที่ร่วมรายการ เช่น ใช้บัตรที่ร่วมโปรโมชันกับปั๊มน้ำมันที่ระบุเพื่อรับเครดิตเงินคืน
- เช็กให้ดีก่อนรูดบัตร เพราะบางที่จะมีกำหนดขั้นต่ำในการรูด รวมถึงค่าธรรมเนียมการรูดบัตร ซึ่งทำให้ราคาที่จ่ายด้วยบัตรเครดิตสูงกว่าจ่ายด้วยเงินสด
*ระยะเวลาปลอดหนี้ คือระยะเวลาที่เจ้าของบัตรเครดิตจะยังไม่คิดดอกเบี้ยจากยอดที่เราจ่าย จะมีระยะเวลาไม่เท่ากัน แล้วแต่ผู้ออกบัตรเครดิต หากไม่มีระยะเวลาปลอดหนี้ เราจะถูกคิดดอกเบี้ยทันทีที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้น ๆ
สิ่งที่ต้องรู้ในการสมัครบัตรเครดิต
- เป็นบัตรแบบไหน
- สิทธิประโยชน์มีอะไรบ้าง
- มีค่าธรรมเนียมรายปีหรือไม่ ถ้ามี ใช้จ่ายเท่าไหร่จะได้ยกเว้นค่าธรรมเนียม
บัตรแบบไหนเหมาะกับใคร
ปัจจุบันมีบัตรเครดิตแบบที่ร่วมรายการกับร้านค้าหรือบริการใด ๆ เป็นพิเศษ เช่น บัตรเครดิตของห้างสรรพสินค้า แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือสายการบินต่าง ๆ ซึ่งบัตรเหล่านี้จะได้สิทธิประโยชน์มากเป็นพิเศษหากใช้กับร้านค้าที่ร่วมรายการ
ขณะเดียวกัน บัตรเครดิตแต่ละใบยังมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันตามแต่ผู้ออกบัตร หรือชนิดของบัตรว่าเป็น Visa หรือ Master Card ซึ่งเราสามารถเลือกพิจารณาดูให้เหมาะกับการใช้งานของเรา
นอกจากนี้ ยังมีบัตรเครดิตที่เราสามารถเลือกเครดิตเงินคืนที่สูงในหมวดที่เราต้องการได้เอง ทำให้สามารถเลือกบัตรเครดิตที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้มากยิ่งขึ้น
ในการสมัครบัตรเครดิตต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
- สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ / สำเนาบัตรประจำตัวพนักงานของรัฐ
- หนังสือรับรองรายได้ / สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด
- สำเนาบัญชีส่วนตัวย้อนหลัง 3 เดือน (ถ้าเป็นฟรีแลนซ์ต้องย้อนหลัง 6 เดือน)
แต่สำหรับเด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นครั้งแรก อาจจะสมัครบัตรเครดิตยากสักหน่อย เพราะการทำงานครั้งแรกอาจจะยังมีฐานเงินเดือนน้อย รวมทั้งยังไม่มีความมั่นคง ซึ่งผู้ออกบัตรอาจจะกังวลว่าหากออกบัตรไปแล้วผู้สมัครบัตรจะสามารถจ่ายคืนได้หรือไม่ เพื่อให้ง่ายต่อการอนุมัติ อาจแนะนำให้ลองสมัครบัตรเครดิตกับธนาคารที่เราได้รับเงินเดือน หรือเน้นบัตรที่อนุมัติง่าย สิทธิประโยชน์ไม่มาก และจ่ายให้ตรง เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าเราสามารถรับผิดชอบการใช้บัตรเครดิตได้ จะทำให้สมัครบัตรใบต่อ ๆ ไปได้ง่ายขึ้น