การมีเป้าหมายทางการเงินมันคืออะไรกันนะ ?
การมีเป้าหมายทางการเงิน หมายถึงการที่คุณวางแผนว่า ต้องการใช้จ่าย เก็บออม และหาเงินมาอย่างไร มันเหมือนกับการสร้างแผนงานสำหรับเงินในกระเป๋าของคุณนั้นแหละ ถ้าหากว่าไม่มีมัน ก็อาจจะยากในการคิดให้ออกว่า คุณสามารถใช้จ่ายเงินได้เท่าไหร่ และควรเก็บไว้เท่าไหร่
นักวิจัยพบว่า ผู้ที่กำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน จะมีแนวโน้มที่จะพบอิสระทางการเงินมากขึ้น
เป้าหมายของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ส่วนตัว วิธีการใช้ชีวิตอะไรพวกนี้ บางคนอาจจะตั้งเป้าเก็บเงินให้ได้เดือนละ 10,000 บาท บางคนอาจจะอยากมีเงินเก็บสักล้านนึง หรือบางคนตั้งเป้าจะเกษียณอายุตั้งแต่วัย 40 ต้นๆ
แต่ไม่ว่าเป้าหมายของแต่ละคนจะเป็นยังไง แต่กลยุทธ์พื้นฐานก็จะเหมือนกัน คือใช้จ่ายให้น้อยลง และหารายได้ให้มากขึ้น
คุณจะกำหนดเป้าหมายทางการเงินของคุณได้อย่างไร ?
เมื่อคุณตั้งเป้าหมาย แนวทางที่เป็นประโยชน์ก็คือ S.M.A.R.T ซึ่งย่อมาจาก เจาะจง (Specific), วัดผลได้ (Measurable), เน้นการกระทำ (Action-oriented), เป็นไปได้จริง (realistic) และ มีกรอบระยะเวลา (Time-Bound)
เป้าหมายทางการเงินของคุณ ควรมีความเฉพาะเจาะจงและสามารถวัดผลได้ เช่น คุณตั้งเป้าไว้ว่าจะประหยัดเงินให้ได้ 10,000 บาทต่อเดือน นี้คือตั้งเป้าหมายชัดเจน แต่ถ้าคุณบอกว่า คุณจะประหยัดเงินบางส่วนไว้ต่อเดือน แบบนี้ไม่ชัดเจน
เป้าหมายของคุณควรสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวคุณเองด้วย อย่าง การลดรายจ่ายลงครึ่งหนึ่งของทุกเดือน ไม่ใช่แค่พูดว่า ผมอยากรวย
เป้าหมายที่ตั้งไว้ จะต้องมีการบรรลุผล และมีการกำหนดกรอบเวลาด้วย บางคนอาจตั้งเป้าระยะสั้นไม่เกินปีนึง หรือระยะกลาง 3-5 ปี หรือบางคนอาจมีเป้าหมายระยะยาว 10-20 ปีก็ได้
อย่างการที่คุณตั้งเป้าเอาไว้ว่า สิ้นปีหน้าคุณจะมีเงินเก็บ 200,000 บาท ก็จะกระตุ้นให้คุณตั้งใจทำมากกว่าการที่คุณตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะเก็บเงินให้ได้ โดยไม่กำหนดกรอบระยะเวลา
นอกจากนี้ หากคุณมีเป้าหมายทางการเงินมากกว่าหนึ่งเป้าหมาย การวางแผนและการจัดลำดับความสำคัญจะช่วยให้คุณบรรลุผลตามที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
อย่างสมมุติ คุณอยากจะซื้อบ้านสักหลังให้ได้ภายใน 10 ปี เป็นเป้าหมายหลักอันใหญ่ คุณก็สามารถเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายเล็กๆ รองลงมาอย่างการเก็บเงินไปดาวน์บ้านให้ได้สัก 500,000 บาท ภายใน 2 ปีข้างหน้า ถ้าย่อยลงมาอีกก็ตั้งเป้าเก็บเงินให้ได้เดือนละ 15,000 บาท เป็นต้น
กลยุทธ์ง่ายๆ ในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินก็คือ ใช้จ่ายให้น้อยลง และ หาเงินให้ได้มากขึ้น
วิธีการที่ช่วยให้คุณใช้จ่ายน้อยลง
ติดตามวิธีการใช้เงิน : ก่อนที่คุณจะลดค่าใช้จ่ายได้ คุณก็ต้องรู้ก่อนว่า ในแต่ละเดือนของคุณ เงินทั้งหมดที่คุณหามาได้ คุณใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ลองเริ่มด้วยการจดบันทึกรายรับรายจ่ายของคุณในแต่ละวัน เป็นระยะเวลาสัก 1-2 เดือนดู
กำหนดวงเงินการใช้จ่าย : การกำหนดวงเงินการใช้จ่าย จะช่วยให้คุณจัดการเงินได้ดีมากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณ และลดการใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
ใช้เงินให้น้อยกว่าที่หามาได้ : การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณไม่ใช้เงินเกินตัว ลองหยุดคิดสักหน่อยก่อนจะตัดสินใจใช้เงิน จริงๆ มันเป็นเรื่องง่ายนะที่จะใช้เงินตอนที่ใจอยากจะใช้ แต่ลองหยุดคิดดูสักวันหนึ่งก่อน จะได้รู้ว่าเราอยากจะใช้มันจริงๆ หรือเปล่า
วิธีการที่ช่วยให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้น
การฝากเงินออมพร้อมดอกเบี้ย : ลองหาธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยคุ้มค่ากับการฝากเงินของคุณดู วิธีนี้จะทำให้เงินของคุณเพิ่มโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย
งานเสริม : ถ้าคุณมีเวลาว่างจากงานประจำ ลองหางานพิเศษเพิ่มมาทำดูสิ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีรายได้พิเศษ และอาจทำได้ง่ายเพียงแค่เริ่มจากการขายของออนไลน์ หรือทำอะไรที่ตัวเองชอบดู ลองคิดดูละกัน ถ้าคุณได้ทำสิ่งที่ชอบแถมยังได้เงิน มันก็คงจะดีไม่น้อยเลย
Passive Income : ลองเปลี่ยนจากทำงานหาเงิน เป็นการหาวิธีให้เงินทำงานแทนเราดู คุณสามารถสร้างรายได้แบบพาซซีฟได้ จากการลงทุนประเภทต่างๆ เช่น พันธบัตร หุ้นปันผล กองทุน อสังหาริมทรัพย์ หรือสกุลเงินดิจิทัลและคริปโต
แล้วคริปโตจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างไร ?
เก็บออมคริปโต : หากคุณไม่สนใจที่จะมาเป็น Trader ในตลาดคริปโต คุณก็ยังสามารถสร้างรายได้จากมันได้ คุณสามารถเอาคริปโตของคุณ ไปฝากเอาไว้และรับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย
เป็นศิลปินดิจิทัล : ในโลกคริปโตมันไม่มีแต่เหรียญนู้นเหรียญนี้เท่านั้น หากคุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีฝีมือ คุณก็สามารถเริ่มทดลองสร้างรายได้ด้วยการขายงานศิลปะดิจิทัลบนโลกบล็อคเชนได้
เป็น Tradoooooor : วิธีนี้ดูจะเป็นวิธีที่นิยมมากเหมือนกัน คุณสามารถเข้ามาทำกำไรได้ด้วยซื้อและขายคริปโต โดยมีตลาดหลายแบบให้คุณเลือกเข้าไปลงเล่น ทั้งตลาด Spot, Margin, Future และ Options แต่ระวังเอาไว้ เพราะตลาดนี้มีความเสี่ยงมากเหมือนกันหากคุณไม่แน่จริง
ก่อนที่คุณจะเริ่มเข้ามาลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ถือว่าเราขอร้องก็แล้วกัน ใช้เวลาสักนิดเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับมันให้เข้าใจเป็นอย่างดีเสียก่อน นอกจากนี้ ก็เป็นความคิดที่ไม่แย่เลยหากคุณลงทุนด้วยเงินจำนวนที่คุณสามารถสูญเสียได้ และรู้จักหากลยุทธ์มาปกป้องเงินทุนของคุณ
เป้าหมายทางการเงินของคุณก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความพึงพอใจ มีหลายวิธีในการเป้าหมายทางการเงินของคุณ แต่ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์อย่างไร สิ่งสำคัญคือทุกกลยุทธ์ต้องใช้เวลาและความอดทน ไม่ต้องเร่งรีบ จำเอาไว้เสมอว่า “ความอยากรวยเร็ว” มักจะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ช้าลงกว่าเดิม