นับตั้งแต่ยึด Bitcoin มูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม รัฐ Saxony ของเยอรมนีก็เทขายไปแล้วกว่าครึ่งของที่มีอยู่ สร้างความหวาดกลัวให้กับตลาด
ในช่วงหลายวันมานี้ สื่อทั่วโลกพร้อมใจกันรายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีเทขาย Bitcoin มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ สร้างความหวาดกลัวให้กับตลาด และทำให้เกิดการเทขายครั้งใหญ่ในโลกคริปโต
แต่อย่างแรกที่ทุกคนต้องรู้ก็คือ คนที่เทขาย Bitcoin ไม่ใช่รัฐบาลเยอรมนี แต่เป็นรัฐเล็ก ๆ ทางตะวันออกของประเทศที่ชื่อ Saxony
และอย่างที่สอง แม้จะถูกคนในโลกคริปโตรุมด่าการตัดสินใจเทขายครั้งนี้ แต่ Saxony ก็ไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากนัก
เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา Criminal Police Office (LKA) ของรัฐบาลเยอรมนี ได้ทำการยึด Bitcoin 49,857 BTC (แต่รายงานระบุว่าเป็น “การโอนโดยสมัครใจ”) จากผู้ให้บริการเว็บไซต์ Movie2k.to ซึ่งจากชื่อก็เชื่อได้ว่าเป็นเว็บดูหนังเถื่อนนั่นแหละ โดยถูกจับในข้อหาฟอกเงินและกิจกรรมผิดกฎหมายอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมิถุนายน กระเป๋าที่เป็นของสำนักงานตำรวจอาญาของรัฐบาลกลางเยอรมนี (BKA) ก็เริ่มย้าย Bitcoin หลายพัน BTC ไปยัง exchange ต่าง ๆ รวมถึง Kraken, Coinbase และ Bitstamp เป็นการส่งสัญญาณว่าจะเทขาย Bitcoin และจนถึงตอนนี้ก็เทขายไปมหาศาล โดยยังเหลือ Bitcoin อยู่เพียง 13,177 BTC ในระหว่างนั้น Bitcoin ปรับตัวลงกว่า 15% ใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 53,550 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณว่ารัฐ Saxony พยายามเทขาย Bitcoin มากเกินไป เพราะมีการส่ง Bitcoin กลับหลายครั้งจาก exchange ต่าง ๆ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีความต้องการซื้อไม่เพียงพอ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะรัฐบาลเยอรมนีมีแผนการลงทุนที่แย่แต่อย่างใด แต่เป็นขั้นตอนมาตรฐานในการจัดการกับสินทรัพย์ที่ยึดมาในการสืบสวนทางอาญาเท่านั้น
ดร. Lennart Ante ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Blockchain Research Lab ในเยอรมนี กล่าวว่า “สำนักงานอัยการทั่วไปของ Saxony เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการจัดการสินทรัพย์ที่ยึดมา และการเทขายก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ สินทรัพย์ที่ยึดมามักจะต้องนำออกขายเมื่อถึงเวลาที่กำหนดอยุ่แล้ว นี่เป็นกระบวนการปกติ แม้ครั้งนี้สินทรัพย์ที่ว่าจะใหญ่กว่าปกติก็ตาม”
ส่วนสาเหตุที่กระเป๋าเป็นของ BKA ไม่ใช่ของ Saxony เอง อาจเป็นเพราะ BKA มีความเกี่ยวข้องกับการสืบสวนตั้งแต่แรก และมีความรู้ในการจัดการ Bitcoin ปริมาณมหาศาล อย่างไรก็ตาม BKA ไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ และต้องทำตามคำสั่งจากรัฐเท่านั้น
ดร. Ante ระบุว่า ในกรณีส่วนใหญ่ สินทรัพย์ที่ถูกยึดมาจะสามารถโอนหรือขายเป็นงบประมาณของรัฐได้เท่านั้น โดยจะสามารถทำได้หลังผู้พิพากษาอนุญาตแล้ว ซึ่งไม่ใช่ในกรณีเฉพาะแบบครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐสามารถขอเริ่มการขายฉุกเฉินได้หากสินทรัพย์นั้นอาจสูญเสียมูลค่าอย่างรวดเร็วหรือเก็บรักษายาก
“ในกรณีของ Bitcoin อย่างน้อยที่สุดก็อ้างเรื่องความผันผวนได้” ดร. Ante กล่าว
ทั้งนี้ ดร. Ante ยอมรับว่า การนำออกประมูลหรือขายแบบ OTC จะมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ถ้า Bitcoin ต้องการจะทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ทางการเงินระดับโลกและทองคำดิจิทัลอย่างที่มีคนกล่าวไว้ ตลาดก็ต้องทนต่อเหตุการณ์เทขายเช่นนี้ได้