เรียกว่ากลายเป็นประเด็นเลยทีเดียว หลังจากที่ Catizen เกมคาเฟ่แมวชื่อดังบน Telegram ทำการแจก Airdrop เสร็จสิ้น เพราะหลายคนมองว่ามันช่างน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ นำมาซึ่งเสียงบ่น ด่า โวยวาย เรียกร้องให้ทีมงานคำนวณใหม่ ซึ่งตามมาด้วยการแถลงการณ์ชี้แจงจากทีมงาน… ซึ่งการแถลงดังกล่าวเหมือนจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก เพราะมีการเปลี่ยนเกณฑ์แจก Airdrop โดยไม่แจ้งซะอีก
ดราม่านี้เป็นยังไง เริ่มจากอะไร จบที่ตรงไหน ไปไล่ดูกันเล้ย
ทำความรู้จัก Catizen
Catizen เป็นเกมเปิดคาเฟ่แมวบน Telegram จาก Pluto Studio โดยมีการเล่นง่าย ๆ คือซื้อแมวมาแล้วนำแมวเลเวลเดียวกันมาผสมกันให้กลายเป็นเลเวลที่สูงขึ้นไป โดยยิ่งแมวเราเลเวลเยอะขึ้น เราก็จะมีรายได้ในเกมมากขึ้น แถม Catizen ยังเป็นเกมแนว Idle ที่ต่อให้เราปิดเกมไปเราก็ยังได้รับรายได้ในเกมอยู่ นอกจากนี้ ยังมีมินิเกมตกปลาให้เล่น ซึ่งก็จะได้รางวัลเป็นเงินในเกมสำหรับไว้ซื้อแมวนั่นแหละ
ก็ง่าย ๆ ชิล ๆ ดีนี่ แล้วมันทำไมเหรอ
ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ที่จริงก็มี เพราะเงินที่ได้ตอนปิดเกมมันไม่พอใช้หรอก หรือถ้าพูดให้ชัดกว่านั้นก็คือ ถ้าเล่น Catizen ด้วยการเข้าเกมวันละไม่กี่ครั้งแล้วอาศัยเงินจาก Idle เหมือนเกม Idle อื่นทั่วไป รับรองเลยว่าเวลแมวแทบไม่ขึ้นแน่นอน จึงนำมาซึ่งวิธีแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ นั่นก็คือ “เปิดเกมทิ้งไว้ตลอดเวลาเลยสิ”
ยังไม่พอ Catizen ยังเป็นเกมที่ไม่ทำงานบน Background อีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่าเราจะเปิดเกมบนมือถือหรือ PC เราก็ต้องตั้งให้ Standby ไว้ตลอดเวลา ทั้งกินไฟ และทำเครื่องเสื่อมสภาพหนักไปอีก ดังนั้นต่อให้เป็นสายฟรีแต่ถ้าจะเล่นจริงจังก็เตรียมคิดค่าเสื่อม+ค่าไฟไว้ดี ๆ อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนก็คาดหวังกับ Airdrop ครั้งนี้พอสมควร ด้วยความที่เกมนี้ดังมาก คนเล่นระดับ 30 ล้านคน แถมตัวเกมยังสร้างรายได้จากการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในเกม (เติมเงินนั่นแหละ) ได้มหาศาล
Airdrop เจ้าปัญหา
อย่างที่บอกไปว่า Catizen มีฐานผู้เล่นจำนวนมาก แถมยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เกมบน Telegram ที่มีรายได้เข้ามาจริง ๆ ตั้งแต่แรก ๆ เลย ทำให้ผู้เล่นต่างคาดหวังกับ Airdrop ครั้งนี้อย่างมาก แต่เมื่อการ Snapshot เสร็จสิ้น และผู้เล่นสามารถเข้าเกมไปตรวจ Airdrop ของตัวเองได้ ดราม่าครั้งใหญ่ก็บังเกิด เมื่อผู้เล่นพบว่า Airdrop ที่ได้มันไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า เช่น ผู้เล่นรายหนึ่งบอกว่า
“อยู่อันดับ 6,054 จากผู้เล่นทั้งหมด 36 ล้านไอดี (แมวเลเวล 332) แต่ได้มา 39 CATI เนี่ยนะ ใครกล้าพูดมั่งว่านี่มันเป็นการแจกเหรียญอย่างยุติธรรม เราต้องการความโปร่งใส!!!”
ในทางกลับกัน มีคนที่แมวเลเวล 32 แน่นอนว่าอันดับห่างจาก 6,054 ไกลลิบโลก แต่ได้มาถึง 90 CATI!!!
นอกจากนี้ ยังมีคนได้ Airdrop หลักเดียวเป็นจำนวนมาก (ตัวเลขยอดนิยมน่าจะ 2 CATI) จนทำให้เกิดกระแสด่าอย่าถล่มทลายใน X (Twitter เดิม) จนดัน #catizenscam ติดเทรนด์ไปในทันที
ยังครับ ยังไม่พอ มีคนตั้งข้อสังเกตด้วยว่า จำนวน Airdrop ที่แจกมา มันไม่ตรงกับที่ประกาศไว้ตอนแรกนี่หว่า!?
หักหลัง Community กันดื้อ ๆ ?
ในทีแรกสุด Catizen ระบุว่า 43% ของ Token Supply จะนำมาแจกให้กับ Community แต่ในการประกาศ Tokenomics ที่ออกมาภายหลังช่วงวัน Snapshot กลับเหลือเพียง 34% ซึ่งนำมาซึ่งคำถามมากมาย
ต่อมาทาง Catizen ได้ออกมาอธิบาย (หรือเติมเชื้อไฟ) ให้กับ Community ว่า 43% ที่ว่าจะแบ่งไว้สำหรับ “Airdrop และ Ecosystem” แถมจะแจกแค่ 15% “สำหรับ Airdrop Season 1” (มาไงฟะ!!!) ยังไม่พอ ยังแบ่งให้กับ Binance Launchpool อีก 9%! ซึ่งผู้เล่นก็โวยเลยว่า “พวกนั้นไม่ใช่ Community ของ Catizen บางคนมันไม่รู้จักเกม Catizen ด้วยซ้ำ”
ยังไม่จบแค่นั้น เพราะต่อให้ตัดนู่นตัดนี่ยังไง คนก็ยังรู้สึกว่าการแจกมันแปลก ๆ อยู่ดี (โปรดอย่าลืมตัวอย่างข้างต้น ผู้เล่นอันดับ 6,054 ของเกม ได้มา 39 CATI) นำมาซึ่งคำชี้แจกเกี่ยวกับเกณฑ์การแจก Airdrop ซึ่งหักหน้าผู้เล่นอย่างรุนแรง นั่นก็คือ…
“ในวันที่ 6 มิถุนายน Catizen ให้ Community โหวตว่าจะให้น้ำหนักกับเกณฑ์ใดในการแจก Airdrop และ Community เลือกให้น้ำหนักกับ $vKitty Profit/s มากที่สุด (เงินในเกมสำหรับซื้อแมว) แต่ในระหว่างที่ทีมงานตรวจสอบข้อมูลเพื่อแจก CATI ก็ได้พบว่ามีหลายบัญชีที่อาศัยช่องโหว่ในกฎนี้ และใช้สคริปต์เพื่อเพิ่ม $vKitty Profit/s โดยหวังจะได้ CATI มากกว่าที่ควร ซึ่งทางทีมงานมองว่าจะทำให้ผู้เล่นจริง ๆ ได้ Airdrop น้อยลงอย่างมาก
ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่า ‘ผู้เล่นจริง ๆ’ จะได้รับ Airdrop CATI อย่าง ‘ยุติธรรม’ ทีมงานจึงตัดสินใจเปลี่ยนเกณฑ์การแจก Airdrop เพื่อสะท้อนพฤติกรรมผู้เล่นจริงให้แม่นยำมากขึ้น ด้วยการลดน้ำหนักของ $vKitty Profit/s ไปให้กับการทำธุรกรรม On-chain, การทำภารกิจ การซื้อและใช้เหรียญปลา”
แน่นอนว่า การทำธุรกรรม On-chain, การทำภารกิจ การซื้อและใช้เหรียญปลา ล้วนแต่เป็นการใช้เงินจริงเติมเข้าไปทั้งสิ้น!!!
จนผู้เล่นรายหนึ่งถึงกับสรุปออกมาเลยว่า
“นี่คือสิ่งที่ Catizen กำลังบอกเรา
✔️ผู้เล่นที่ซื่อสัตย์คือคนที่ใช้เงินจริงซื้อของในเกม
✔️ผู้เล่นที่ไม่มีเงินทุนแต่เล่นเกมทุกวันอย่างจริงจัง (เปิดเกม 16-24 ชั่วโมงต่อวัน) คือไอ้พวกขี้โกง
✔️ไม่แบนพวกขี้โกงที่ใช้สคริปต์ แต่ไปให้รางวัลเฉพาะคนที่เปย์เงินให้กับเกม
✔️ใครไม่พอใจก็ร้องซะ!!!”
อนาคตของ Catizen และเกมในเครือ
การแจก Airdrop ที่พัง พัง พัง ขนาดนี้ในสายตาของ Community ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวเกม Catizen ร่วงหนัก โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงว่าที่จริงแล้วเกม Catizen สร้างรายได้ไปถึง 27 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ก่อนจะ Snapshot แจก Airdrop
คอมเมนต์ต่าง ๆ ตามโพสต์ต่าง ๆ บน X ของ Catizen ก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเหล่าผู้เล่นที่เสียเวลา (และค่าเสื่อมของอุปกรณ์) ไปกับเกมนี้อย่างมาก แม้จะมีคอมเมนต์ที่บอกทำนองว่า “จ่ายเท่าไหร่ได้เท่านั้น” ออกมา แต่ก็เหมือนจะเป็นการตอกย้ำการหักหลัง Community ของ Catizen เข้าไปอีก เช่น “แล้วเวลาที่เสียไปกับการเล่นเกมไม่นับเป็นการ Contribute ให้กับเกมหรือ?”
หรือถ้าให้เปรียบเทียบกับอีกเกมบน Telegram ที่มี Timeline การ Snapshot แจก Airdrop ลง Binance Launchpool และลิสต์บน Exchange ในเวลาใกล้เคียงกันอย่าง Hamster Kombat ก็จะยิ่งเห็นความแตกต่าง เพราะถึง Hamster Kombat จะยังไม่แจก Airdrop แต่ตัวเกมไม่เคยเรียกร้องเงินจากผู้เล่นเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นหายห่วงเรื่อง “จ่ายมากได้มาก” ไปได้เลย
การสูญเสียความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงจาก Community ครั้งนี้อาจนำมาซึ่งผลเสียที่รุนแรงกว่าที่คาด โดยเฉพาะในเมื่อ Catizen เปิดตัว Catizen App Center ที่นำเสนอเกมหรือแอปอื่น ๆ ที่โฆษณาว่าเล่นแล้วได้ Airdrop เช่น Bombie ซึ่งก็มาพร้อมระบบ Microtransaction ในเกม เพราะในเมื่อผู้เล่นเห็นตัวอย่างชัด ๆ ขนาดนี้แล้ว อาจจะต้องคิดอีกหลายรอบก่อนจะ Invest เวลาหรือแรงงานให้กับเกมหรือโปรเจกต์อื่น ๆ ในเครือของ Catizen…
ก็ในเมื่อรอใกล้ Snapshot แล้วก็เข้าไปโยนเงินรอผลตอบแทน 2-3x ในเวลาไม่กี่วันได้ เราจะทนนั่งเล่นทุกวันตลอดหลายเดือนเพื่อรอรับเศษผงจากโปรเจกต์ที่ไม่เห็นหัวผู้เล่นไปทำไมล่ะจริงมั้ย?