ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว. ดิจิทัล แชร์วิสัยทัศน์ คว้าโอกาสเตรียมความพร้อมสู่ตลาดกระทิง
คว้าโอกาสการเรียนรู้ เปิดประตูก้าวสู่โลกเทคโนโลยีใหม่ไร้พรมแดน กับงานมหกรรม บล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ภายใต้แนวคิด “Build in Bear, Rise in Bull” จับทันทุกเทรนด์ในโลก บล็อกเชน ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum ฯลฯ จากมุมมองผู้บริหารโปรเจกต์ชั้นนำทั้งระดับ ประเทศและระดับโลก เปิดมุมมองต่ออนาคตบล็อกเชนในประเทศไทยจากตัวแทนองค์กรภาครัฐ และนักการเมือง พร้อมร่วมสนุกกิจกรรม ลุ้นรับของรางวัลภายในงานรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าจับตามองมากที่สุดคือเทคโนโลยีบล็อกเชน หากประเทศไทยสามารถประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีบล็อกเชนได้อย่างเต็มที่ จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการ ทำงาน ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่าง ๆ รวมถึงลดความเสี่ยงการทุจริต สร้างความ โปร่งใสและตรวจสอบได้ อีกทั้งเปิดโอกาสทางการค้า ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ สร้างงานใหม่ เกิดธุรกิจและอาชีพใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน เนื่องจากมีความเป็น Open and Neutral ที่ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม และเพื่อให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี บล็อกเชนได้อย่างเต็มที่ คนไทยทุกคนต้องเตรียมพร้อมรับมือ ปรับตัว และเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ โดยอาจเริ่มจากการทำความรู้จักกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ศึกษากรณีการใช้งานต่าง ๆ และติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อทำให้ก้าวไปสู่โลกใบใหม่ที่ไร้พรมแดนและสร้างประโยชน์ให้คุณได้สูงสุด
นายสัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้จัดงานหลัก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Build in Bear, Rise in Bull” เนื่องจากในช่วงตลาดหมี มักเป็นช่วงที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจโลก นโยบายการเงินของธนาคารกลาง และกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ส่งผลให้ราคา สินทรัพย์ดิจิทัลลดลง แต่ในทางกลับกัน ในช่วงตลาดหมี ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่จะสะสม สินทรัพย์ดิจิทัลในราคาถูก โดยนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักใช้ช่วงเวลานี้ในการพัฒนาความรู้และ ทักษะที่จำเป็นสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
หากเรามองภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล จะพบว่าบิทคอยน์มีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ อีกทั้ง Bitcoin Halving ในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึง และการอนุมัติ Bitcoin SPOT ETF ที่มีแนวโน้มในเชิงบวกขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งปัจจัยต่าง ๆ ภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเชิง สถิติของจำนวนบัญชีซื้อขาย และมูลค่าการซื้อขายในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงบริษัทยักษ์ ใหญ่และสถาบันการเงินที่เริ่มเข้ามาลงทุนเพื่อให้บริการในตลาดคริปโทฯ
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็น Cryptocurrency Hub ของ ASEAN เรามีการควบคุมจากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างเหมาะสม เรามีผู้เล่นมากราย เรามี Community ที่ครอบคลุม และเพื่อผลักดันให้คนไทยมีความพร้อมสำหรับเทรนด์ของอนาคต จึงเกิดเป็นงานบล็อกเชน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 ขึ้น
ซึ่งงานในปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา รูปแบบของงานที่หลากหลาย การรวบรวมเหล่าคนดังในวงการ Cryptocurrency และ Blockchain ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 170 ท่านมาร่วมพูดคุย เสวนา และให้ความรู้มากกว่า 50 Session บนเวทีทั้ง 3 เวทีภายในงาน สำหรับ Section ที่เป็นต่างชาติ ทางผู้จัดงานเตรียมหูฟังแปลภาษาไว้รองรับกว่า 250 เครื่อง และการร่วมกิจกรรมสนุก ๆ ลุ้นรับของรางวัล อีกมากมาย รวมถึงห้ามพลาดกับ Workshop ที่คัดสรรคุณภาพมาอย่างดีและรับประกันความรู้อัดแน่น นอกจากนี้ยังมีบริษัทชั้นนำที่น่าสนใจมาร่วมออกบูธอีกมากมายตลอดทั้ง 2 วัน พร้อมหัวข้อที่พลาดไม่ได้ กับ “แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน” และ “เขาว่ากันว่าบิทคอยน์เป็นแชร์ลูกโซ่”
เราได้จัดเต็มกับของรางวัลมากมายไฮไลท์คือ iPhone 15 Pro Max และ iPad 10th Gen และรางวัลจากบู๊ทผู้สนับสนุนการจัดงานให้ตามล่าอีกมากมาย รวมมูลค่ามากกว่า 500,000 บาท หลังจากจบงานแล้ว ผู้ที่สนใจยังสามารถเข้าร่วม อีก 50 Side Event ที่จัดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 – 15 พ.ย. 66 ได้อีกด้วย นายสัญชัย กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับ บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และ บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด
บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด เป็นกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาด้านบล็อกเชนและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบไปด้วย บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัย และ บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด บริการที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของไทยอย่างเป็นทางการภายในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ซึ่งเปิดบริการให้คำปรึกษา วิเคราะห์การลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ทั้งกลุ่มบุคคลและนิติบุคคล และการบริหารจัดการด้านอีเว้นท์ เช่น Blockchain Thailand Genesis และ คอมมูนิตี้ เช่น Bitcoin Addict Thailand เพจให้ความรู้ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Cryptomind Advisory Blockchain Review , Kim DeFi Daddy, Coinman และ Sanjay Popli ที่มีผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 500,000 คน และเพื่อให้คนไทยได้มีช่องทางในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทเราโปรดดูได้ทางเว็บไซต์ https://cryptomind.group และ https://merkle.capital/