KEY TAKE
- Bitcoin (BTC) ร่วงต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทขุดคริปโตเจ้าใหญ่อย่าง Core Scientific ต้องทำการขอชะลอการชำระหนี้
- Core Scientific ได้ตัดสินใจที่จะยังไม่ชำระหนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ไปก่อน
- เงินสดภายในบริษัท Core Scientific อาจหมดลงภายในสิ้นปี 2022 หรือเร็วกว่านั้น
อะไรจะสวิงเท่าตลาดในคริปโตไม่มีแล้ว เพราะในช่วงที่ผ่านราคาเหรียญหลัก อย่าง Bitcoin (BTC) ร่วงต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทขุดคริปโตเจ้าใหญ่อย่าง Core Scientific ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลการประมวลผลบล็อกเชนและเป็นผู้ขุดเหมือง BTC ที่ใหญ่ที่สุดในโลกต้องทำการขอชะลอการชำระหนี้
จากราคาที่ร่วงอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin พร้อมกับต้นทุนในการขุดเหรียญคริปโตที่สูงขึ้น รวมถึงปัญหาการฟ้องร้องกับบริษัทผู้ให้กู้ยืมคริปโตอย่าง Celsius Network ล่าสุด Core Scientific ได้ตัดสินใจที่จะยังไม่ชำระหนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ไปก่อน อย่างไรก็ตามเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ จึงมีการจ้างทีมที่ปรึกษาพิเศษและวางแผนที่จะเพิ่มทุน
ในวันที่ 26 ตุลาคม Core Scientific ถือเหรียญ Bitcoin อยู่ที่ 24 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่า 26.6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในเดือนกันยายนบริษัทถือ Bitcoin อยู่ที่ 1,051 BTC มูลค่าราว 29.5 ล้านดอลลาร์ โดยหลังจากที่ Core Scientific ประกาศขอเลื่อนการชำระหนี้ พบว่าหุ้นของบริษัทร่วงลงมาถึง 97% เลยทีเดียว
หากสังเกตมูลค่าเหรียญ Bitcoin จากทั้งสองเดือนจะเห็นได้ว่าจำนวนการถือครองเหรียญ Bitcoin ลดลง โดยบริษัทกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า การคาดการณ์ถึงสภาพคล่องในอนาคตของบริษัทยังเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยาก และดูเหมือนว่าเงินสดภายในบริษัทอาจหมดลงภายในสิ้นปี 2022 หรือเร็วกว่านั้น
ความกังวลด้านการเงินของ Core Scientific ส่งผลให้นักลงทุนหลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความสามารถของบริษัทว่าจะสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ และมีความเป็นไปได้ด้วยเช่นกันว่าในอนาคต Core Scientific อาจขอยื่นล้มละลาย อย่างไรก็ตามการคาดการณ์นั้นยังคงไม่แน่นอน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน อย่างการตัดสินใจและกลยุทธ์ของทีมชุดใหม่ รวมไปถึงการฟ้องร้องในเชิงกฎหมายด้วยเช่นกัน
References : CNBC, SEC, Twitter(1), Twitter(2)