โดยปกติแล้ว อำนาจในการกำกับดูแลของบริษัทบนโลก Web2 มักจะกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน เช่น คณะกรรมการของบริษัท โดยกลุ่มคนเล็กๆ เหล่านี้มีอำนาจมหาศาลในการกำหนดทิศทาง ตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กร แต่ถ้าหากว่ามีแนวทางที่เป็นประชาธิปไตยและโปร่งใสมากกว่านี้หล่ะ ?
Governance Tokens คือคำตอบ ในโลกของการเงินแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Finance : DeFi) และองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Autonomous Organizations : DAOs) โทเค็นเหล่านี้เป็นตัวแทนของเสียงโหวต ทำให้ทุกคนในชุมชนได้แสดงความคิดเห็นว่าแต่ละโครงการควรมีแนวทางในการดำเนินงานอย่างไร
หลักการทำงานของ Governance Tokens
จริงๆ จะสมมุติให้ Governance Tokens เป็นเหมือนกาวที่คอยยึด DAO, DeFi และ dApps เข้าไว้ด้วยกันก็ได้ โทเค็นเหล่านี้มักให้เป็นรางวัลแก่ผู้ที่ใช้งานอยู่ และมอบสิทธิ์ในการออกเสียงให้กับผู้ถือในการตัดสินใจเรื่องที่สำคัญ ระบบการลงคะแนนแบบประชาธิปไตยนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการยังคงแข็งแกร่งและก้าวหน้า (จริงๆ มันก็จะออกแนวทุนนิยมอะนะ) โดยปกติแล้ว กระบวนการออกเสียงจะเป็นไปโดยอัตโนมัติผ่าน Smart Contract ซึ่งหมายความว่าผลลัพธ์จากการโหวตจะถูกนำไปใช้โดยปราศจากการแทรงแซง
ยกตัวอย่าง MakerDAO ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกระบบ Governance Tokens ในยุคแรกๆ และเป็นผู้ออกเหรียญ Stablecoin DAI อีกด้วย โดย DAO ของ MakerDAO ถูกควบคุมผ่านโทเค็น MKR ซึ่ง 1 MKR = 1 เสียง ผู้ถือโทเค็นสามารถลงคะแนนในการตัดสินใจต่างๆ นับตั้งแต่การตั้งสมาชิกในทีม ไปจนถึงการออกกฏ ซึ่งมีเป้าหมายก็คือ เพื่อรักษาความโปร่งใส เสถียรภาพ และประสิทธิภาพของ Stablecoin ของ MakerDAO หรือ DAI นั้นเอง
มาดู Compound ที่เป็นโปรโตคอล DeFi กันบ้าง โดย Compound เป็นแพลตฟอร์ม Borrow & Lending ที่ผู้ใช้สามารถให้ยืมและยืมเงินได้ โดยมี Governance Token ที่ชื่อ COMP ซึ่งให้อำนาจแก่ชุมชนในการลงคะแนน
COMP ได้มาจากกิจกรรมของคุณบนแพลตฟอร์ม ยิ่งคุณให้กู้และยืมเงินมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้โทเค็น COMP มากเท่านั้น และเช่นเดียวกับ MakerDAO 1 COMP = 1 เสียง และคุณยังสามารถ Delegate หรือมอบเสียงของคุณให้กับผู้อื่นเพื่อลงคะแนนแทนคุณได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่ใช้ Governance Token เช่น Uniswap, PancakeSwap, Aave, Optimism และ Arbitrum ซึ่งแต่ละโครงการกำหนดกฏ, วิธีการทำงาน, และวิธีการแจกจ่ายโทเค็นแตกต่างกันออกไป
ข้อดีข้อเสียของ Governance Tokens
Governance Tokens สามารถจัดการกับการขัดแย้งด้านประโยชน์ซึ่งมักพบในระบบแบบ Centralized ได้ เนื่องจากอำนาจในการตัดสินใจถูกกระจายไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มใหญ่
นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีส่วนรวมและทำงานร่วมกัน ผู้ถือโทเค็นจะมีแรงจูงใจในการลงคะแนนเพื่อปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น (ในความคิดของตน) และเมื่อหนึ่งโทเค็นเท่ากับหนึ่งเสียง การตัดสินใจจึงยุติธรรมและเท่าเทียมมากขึ้น ผู้ถือโทเค็นทุกคนสามารถเสนอข้อเสนอสำหรับการลงคะแนนได้ รายละเอียดต่างๆ จะเปิดให้ทุกคนได้เห็น ซึ่งช่วยลดโอกาสในการทำผิดกติกา
แต่ Governance Tokens ก็มาพร้อมกับด้านที่แย่เหมือนกัน ปัญหาสำคัญคือ เนื่องจากมันเป็นระบบแบบทุนนิยม ทำให้วาฬหรือบรรดาคนรวย สามารถเข้ามาถือครอง Governance Tokens จำนวนมหาศาลได้ และกลายเป็นเสียงจำนวนมากในการลงคะแนน
ซึ่งวาฬก็สามารถลงคะแนนให้เหมาะกับความต้องการของพวกเขาได้ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องแน่ใจว่า โทเค็นจะถูกกระจายให้กับชุมชนอย่างเท่าเทียม
และเพียงเพราะเสียงข้างมากกลายเป็นกฏ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะตัดสินใจได้ดีที่สุดเสมอไป ในบางกรณีที่ผู้ถือโทเค็นโหวตสนับสนุนทีมผู้ก่อตั้งและนักลงทุนหลายใหญ่ ชุมชนอาจจะต้องเสียผลประโยชน์บางอย่าง
อนาคตของ Governance Tokens
Governance Tokens เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจจากโลกคริปโต และสามารถถูกยอมรับได้ในวงกว้าง เนื่องจาก DeFi และ DAO ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เกม อาจนำระบบการกำกับดูแลแบบนี้ไปใช้
โทเค็นเหล่านี้ยังคงพัฒนาและปรับปรุงให้เข้ากับสิ่งใหม่ๆ ในอนาคต อาจมีระบบใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อจัดการปัญหาวาฬ และจัดการระบบการลงคะแนนเสียงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
กฏระเบียบยังสามารถกำหนดอนาคตของ Governance Tokens รัฐบาลบางแห่งอาจจัดประเภทโทเค็นเหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ โดยอยู่ภายใต้กฏระเบียบที่เข้มงวด และอาจส่งผลกระทบต่อระบบการทำงาน
ในขณะที่ Governance Tokens ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ แต่โทเค็นเหล่านี้ก็มีความสำคัญต่อการเติบโตของ DeFi และ DAO พวกเขามอบอำนาจให้กับผู้ใชและชุมชน โดยมีเงื่อนไข่ว่าจะมีการแจกจ่ายโทเค็นอย่างยุติธรรม ด้วยศักยภาพในการสร้างระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจที่แข็งแกร่ง
อนาคตของ Governance Tokens ดูเหมือนจะสดใส ไม่ว่าจะอยู่ในเครือข่ายบล็อกเชน DeFi โครงการ Web3 หรือว่าเกม พวกเขาสามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานและการมีส่วนรวมของสมาชิกในชุมชนได้
Reference : Binance