กองทุน Spot Ethereum ETF ของ Grayscale ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ เสี่ยงสูญเสียเงินเฉลี่ยวันละ 110 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนแรก หากมีรูปแบบการไหลออกของเงินลงทุนคล้ายกับกองทุน Grayscale Bitcoin Trust (GBTC)
Kaiko บริษัทวิจัยคริปโตระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม GBTC ได้เปลี่ยนจากกองทุนปิดมาเป็น ETF และพบว่า ในเดือนแรกมีเม็ดเงินไหลออกถึง 23% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด หรือคิดเป็น 6.5 พันล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน กองทุน ETHE ของ Grayscale มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หากมีการไหลออกของเงินในระดับเดียวกับ GBTC จะทำให้มีเงินไหลออกเฉลี่ยวันละ 110 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 30% ของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวันของ ETH บน Coinbase
ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา กองทุน ETHE ของ Grayscale ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ถึง 26% ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Kaiko ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อกองทุนเปลี่ยนเป็นแบบ Spot Ethereum ETF แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าจะมีการไหลออกของเงินทุนหรือขายคืนเนื่องจากส่วนต่างราคาที่ลดลง
ก่อนหน้านี้ กองทุน GBTC เคยซื้อขายต่ำกว่า NAV สูงสุดถึง 17% ก่อนแปลงเป็น GBTC แต่ส่วนต่างราคานี้แคบลงเรื่อย ๆ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสามารถขายออกในราคาที่เท่าทุนหรือได้กำไร
ข้อมูลจาก YCharts ระบุว่า ในวันที่ 24 พฤษภาคม ราคากองทุน GBTC มีส่วนต่างต่ำกว่า NAV เพียง 0.03% และอยู่ในระดับดังกล่าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ส่วนต่างราคากองทุน ETHE ก็แคบลงเช่นกัน นับตั้งแต่ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้อนุมัติกองทุน Spot Ethereum ETF เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม แม้ว่ากองทุน ETHE จะยังไม่เริ่มซื้อขายในรูปแบบของ Spot ETF ก็ตาม
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ETHE ซื้อขายต่ำกว่าราคา NAV กว่า 25% แต่ราคาค่อย ๆ ปรับขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดเดือนเนื่องจากมีข่าวลือว่า SEC จะอนุมัติ Spot Ethereum ETF จนในวันที่ 24 พฤษภาคม ETHE ซื้อขายต่ำกว่า NAV เพียง 1.28%
นักวิเคราะห์จาก Kaiko ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม มีเงินไหลออกจาก GBTC มากกว่าเงินไหลเข้า Bitcoin ETF ตัวอื่น ๆ
Kaiko สรุปว่า แม้ในระยะสั้นเม็ดเงินที่ไหลเข้า Ether ETF อาจไม่หวือหวามากนัก แต่การอนุมัตินี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ ETH ในฐานะสินทรัพย์ เนื่องจากช่วยลดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบที่ฉุดรั้งราคา ETH ตลอดปีที่ผ่านมา
Reference: cointelegraph