Kamala Harris รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวที่ Economic Club ในเมือง Pittsburgh เมื่อเช้าวันนี้ว่า ภายใต้การนำของเธอ สหรัฐจะกลับมาเป็นผู้นำโลกอีกครั้งในภาคส่วนที่จะกำหนดทิศทางโลกในอีกร้อยปีข้างหน้า
Harris กล่าวว่า “เราจะลงทุนในด้านการผลิตทางชีวภาพและอวกาศ และจะคงเป็นผู้นำในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการคำนวณเชิงควอนตัม บล็อกเชน รวมถึงเทคโนโลยีเกิดใหม่อื่น ๆ รวมถึงขยายความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและการพลังงานสะอาด”
“เราจะส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น AI และสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมกับปกป้องผู้บริโภคและนักลงทุน เราจะสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ปลอดภัยด้วยกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและสอดคล้องกัน” Harris กล่าว
ท่าทีของ Harris ต่างจาก Donald Trump คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรค Republican ที่ออกมาสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีอย่างชัดเจน โดย Harris เพิ่งออกแถลงการณ์สนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลพร้อมกับเน้นย้ำเรื่องการปกป้องผู้บริโภคเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง
ด้านนักวิเคราะห์จาก VanEck ชี้ว่า ยังพูดยากว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นผลดีหรือเสียกับคริปโทเคอร์เรนซี
“เราคิดว่าแม้ Kamala Harris และ Donald Trump ต่างมีมุมมองบวกต่อ Bitcoin แต่ทั้งคู่ก็มีนัยยะที่แตกต่างกันสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้าง ทั้งสองฝ่ายน่าจะยังคงการใช้จ่ายงบประมาณต่อไปในระดับเดิมหรือมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนโยบายต่อต้านธุรกิจเข้ามามีบทบาทมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม VanEck มองว่า หาก Harris ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีก็จะดีต่อ Bitcoin มากกว่า เพราะจะเร่งปัญหาเชิงโครงสร้างหลายอย่างที่จะผลักดันให้มีการใช้ Bitcoin มากขึ้น
Reference: theblock, cointelegraph