สำนักงานอัยการสูงสุดของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เปิดเผยว่า Michael Saylor ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง MicroStrategy บริษัทผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ ตกลงยอมจ่ายเงินค่าปรับ 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีเลี่ยงภาษีเงินได้ ซึ่งถือเป็นคดีฉ้อโกงภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
Brian Schwalb อัยการสูงสุดของวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่า “ไม่มีใครในวอชิงตัน ดี.ซี.ที่อยู่เหนือกฎหมาย ไม่ว่าพวกเขาจะรวยหรือมีอำนาจแค่ไหนก็ตาม Saylor ไม่เพียงแค่ทำผิดกฎหมาย แต่ยังโอ้อวดเกี่ยวกับแผนการเลี่ยงภาษีของเขาและสนับสนุนให้คนอื่นทำตาม”
Schwalb เสริมว่า “การโกงภาษีเป็นการเอาเปรียบชาววอชิงตัน ดี.ซี.ทำงานหนัก ทำตามกฎหมาย และเสียภาษีอย่างถูกต้อง ขณะเดียวกันก็ทำให้เมืองขาดทรัพยากรที่สำคัญสำหรับบริการสาธารณะ รวมถึงความปลอดภัยสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐาน และการศึกษา”
แม้จะตกลงยอมความแล้ว แต่ Saylor ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว New York Times ว่า “จนถึงวันนี้ ฟลอริดายังคงเป็นบ้านของผม และผมยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าผมเคยเป็นชาวเมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ผมตกลงที่จะยุติเรื่องนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาระในการดำเนินคดีต่อเพื่อน ครอบครัว และตัวผมเอง”
ทั้งนี้ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ได้ฟ้องร้อง Saylor และบริษัท MicroStrategy ในเดือนสิงหาคม 2022 โดยกล่าวหาว่า Saylor เลี่ยงภาษีของวอชิงตัน ดี.ซี. กว่า 25 ล้านดอลลาร์ โดยโกหกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของเขาว่าอยู่ในฟลอริดาหรือเวอร์จิเนียแทนที่จะเป็นเมืองหลวงของสหรัฐ เนื่องจากอัตราภาษีในรัฐเหล่านั้นต่ำกว่าวอชิงตัน ดี.ซี. รวมถึงระบุด้วยว่าบริษัท MicroStrategy ก็มีส่วนช่วยปกปิดที่อยู่อาศัยของ Saylor เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
ในตอนนั้น Saylor กล่าวว่า “ด้วยความเคารพ แต่ผมไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของวอชิงตัน ดี.ซี. และหวังว่าจะได้รับการตัดสินที่ยุติธรรมในศาล”
ด้านMicroStrategy ระบุว่า “คดีนี้เป็นเรื่องภาษีส่วนบุคคลของ Saylor บริษัทไม่ได้รับผิดชอบต่อกิจวัตรประจำวันของเขาและไม่ได้ดูแลเรื่องภาษีส่วนบุคคลของเขา”