KEY TAKEAWAYS
- กฎหมายใหม่ของ EU อนุญาตให้ผู้ใช้ Iphone สามารถดาวน์โหลดแอพผ่านเว็บไซต์รวมแอพอื่นๆ นอกเหนือจาก App Store
- กฎหมายใหม่เริ่มบังคับใช้มีนาคม 2024 แต่ Apple ตั้งทีมเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าวแล้ว เพราะยุโรปถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ
กฎหมายตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act: DMA) ฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) ที่เพิ่งผ่านกฎหมายเมื่อเดือนที่แล้ว อนุญาตให้ผู้ใช้งาน Iphone สามารถดาวน์โหลดแอพต่างๆ ผ่านเว็บไซต์รวมแอพอื่นๆ นอกเหนือจาก App Store ได้ เนื่องจากนักพัฒนาพยายามลดค่าธรรมเนียมกว่า 30% ที่ต้องจ่ายให้ Apple
ดังนั้นตอนนี้ Apple กำลังตั้งทีมเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายนี้ของยุโรป
แต่ DMA ยังไม่บังคับใช้จนกว่าจะถึงเดือนมีนาคม 2024 แต่ก็ถือว่านี่เป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ของ Apple เจ้าหน้าที่ของ EU กล่าวว่านี่อาจทำให้รายได้ของ Apple หายไปหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี
ทั้งนี้ยุโรปมีผู้ใช้สมาร์ทโฟน 450 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Apple รองจากสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าประมาณ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์
EU เตือนว่าการละเมิดกฎหมาย DMA ซ้ำๆ อาจทำให้ถูกลงโทษมากถึง 20% ของรายได้ทั่วโลก ซึ่งหากเป็น Apple นั่นหมายถึงเงินมูลค่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ Apple พยายามทำให้การดาวน์โหลดแอพและการชำระเงินต่างๆ อยู่ใน App Store มาเป็นเวลาหลายปี ให้เหตุผลว่าง่ายต่อการดูแลจัดการเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า แต่ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดจากนักพัฒนาแอพ
อีกข้อกำหนดหนึ่งของ DMA ที่จะกระทบ Apple คือ การอนุญาตให้นักพัฒนาติดตั้งระบบการชำระเงินของบุคคลที่สาม แทนที่จะถูกบังคับให้ใช้ระบบของ Apple คำถามที่ใหญ่ที่สุดคือ Apple จะคิดค่าธรรมเนียมปกติ 15-30 เปอร์เซ็นต์สำหรับแอพที่ติดตั้งนอก App Store หรือไม่
เมื่อปีที่แล้วทิม คุก (Tim Cook) หัวหน้าผู้บริหารของ Apple กล่าวว่าการเรียกเก็บเงิน “การซื้อในแอป” (in-app purchase: IAP) 15-30 เปอร์เซ็นต์ไม่ใช่แค่ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน แต่เป็นค่าคอมมิชชันอื่นๆ ที่ Apple สร้างขึ้นเพื่อบริการลูกค้า
“ถ้าไม่ใช้ IAP เราจะต้องสร้างระบบอื่นเพื่อออกใบแจ้งหนี้ให้กับนักพัฒนา ซึ่งผมคิดว่ามันคงจะยุ่งเหยิง” Cook กล่าว
ธันวาคมปีที่แล้วหน่วยงานของเนเธอแลนด์บอก Apple ว่าไม่สมเหตุสมผลที่ไม่ให้แอพนัดเดตสามารถชำระเงินนอก App Store ได้ และให้เวลา Apple สองเดือนในการดำเนินการแก้ไข Apple ก็จ่ายค่าปรับ 50 ล้านยูโร ก่อนจะแทนค่าคอมมิชชั่น 30% ด้วยค่าธรรมเนียม 27% แปลว่านักพัฒนาได้กำไรเพิ่มเพียง 3% และยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินเพิ่มด้วย
แล้วยังกำหนดให้มี Pop-up เตือนว่า ‘ไม่ทำธุรกรรมกับ Apple อีกต่อไป’ ซึ่งนักวิจารณ์มองว่านี่เป็นการพยายามห้ามไม่ให้ผู้ใช้ออกจากแพลตฟอร์มของ Apple
นิโคลัส โรเดลลี (Nicholas Rodelli) จาก CFRA Research กล่าวว่า Apple จะปฏิบัติตามกฎหมายเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น และจะใช้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยเพื่อให้ผู้ใช้ยังคงใช้งานด้านต่างๆ ใน Apple ต่อไป
เอริค วู้ดริง (Erik Woodring) นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley คาดว่าแม้ Apple จะเปิดให้ใช้เว็บรวมแอพและการชำระเงินทางเลือก ลูกค้าก็แทบจะไม่ใช้เพราะพึงพอใจกับ ความปลอดภัย การรวมศูนย์ และความสะดวกสบายที่ App Store มีให้อยู่แล้ว
Reference: Financial Times