KEY TAKEAWAYS
- ปริมาณการใช้ถ่านหินทั่วโลกปีนี้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับที่ปีที่แล้ว
- สาเหตุเกิดความต้องการถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในอินเดียและยุโรป และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
- คาดว่าการใช้ถ่านหินจะยังคงสูงในปีหน้าและในปี 2024 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
ปริมาณการใช้ถ่านหินทั่วโลกปีนี้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับที่ปีที่แล้ว ทำลายสถิติเดิมเมื่อปี 2013 สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) รายงาน
“สิ่งนี้จะผลักดันให้เกิดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกทั่วโลกเพิ่มขึ้น” (เคสุเกะ ซาดาโมริ) Keisuke Sadamori ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดพลังงานและความมั่นคงของ IEA กล่าว
สาเหตุเกิดความต้องการถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในอินเดียและยุโรป และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ทั่วโลกเกิดความกังวลด้านพลังงาน ประเทศต่างๆ ที่เคยให้คำมั่นว่าจะเลิกใช้ถ่านหินจึงหันกลับมาใช้ถ่านหินมากขึ้นแทน
ในยุโรป ปีนี้เป็นปีที่สองที่ปริมาณการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น เพราะ Gas Supplier จากรัสเซียลดลง ส่งผลให้ราคาแก๊สสูงขึ้น ดังนั้นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจึงหันมาพึ่งถ่านหินมากขึ้น
Keisuke Sadamori คาดว่าการใช้ถ่านหินจะยังคงสูงในปีหน้าและในปี 2024 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด 3 ราย ได้แก่ จีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ทำสถิติการผลิตสูงสุดในปี 2022
การใช้ถ่านหินมากขึ้น สวนทางกับที่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง 194 ประเทศทั่วโลกให้คำมั่นกับ UN ว่าจะลดการใช้ถ่านหินเพื่อลดการปล่อยแก๊สมลพิษ
“โลกใกล้ถึงจุดสูงสุดในการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลแล้ว ถ่านหินน่าจะลดการใช้ลงเป็นอันดับแรก แต่เรายังไม่ได้ไปถึงจุดนั้น” Sadamori กล่าวเสริม
Pieter de Pous หัวหน้าโครงการ E3G ซึ่งเป็นหน่วยงานในลอนดอนที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า “ยุคถ่านหินเฟื่องฟูน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน อย่างน้อยก็ในยุโรปเพราะรัฐบาลต่างๆ กำลังเร่งแผนพลังงานสะอาดแล้ว”
Reference: Financial Times