fbpx

เงินคืออะไร? ย้อนทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเงิน และเส้นทางวิวัฒนาการทางการเงินของโลกจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

HomeCRYPTOHISTORY | Cryptoเงินคืออะไร? ย้อนทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเงิน และเส้นทางวิวัฒนาการทางการเงินของโลกจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
TABLE OF CONTENTS

ช่องทางการติดตาม

KEY TAKEAWAYS

  • เงินมีหน้าที่พื้นฐานอยู่ 3 ประการ คือ เป็นหน่วยกลางในการแลกเปลี่ยน เป็นหน่วยวัดมูลค่า และเป็นหน่วยเก็บรักษามูลค่า
  • จุดกำเนิดของเงินเริ่มจากการแลกเปลี่ยนโดยตรง จากนั้นจึงมีสื่อกลางแลกเปลี่ยน เช่นเปลือกหอย ก้าวเข้าสู่การมีเงินเหรียญ เงินจากหนังสัตว์ เงินกระดาษ จากนั้นจึงมีการพิมพ์เงินที่มีมูลค่าเชื่อมโยงกับทองคำที่เรียกว่า Gold Standard ก่อนที่จะกลายมาเป็นเงินเฟียตอย่างในปัจจุบัน หลังจากนั้นเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า จึงก้าวเข้าสู่การเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซี
  • Gold Standard สามารถป้องกันเงินเฟ้อได้ แต่เป็นข้อเสียของรัฐบาลที่ไม่สามารถควบคุมเงินได้ตามต้องการ

ถ้าพูดถึง “เงิน” เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกันดีเพราะแทบทุกด้านของการดำรงชีวิตของเรานั้นล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับเงิน แต่เราเคยสงสัยหรือคิดกันจริงๆ ไหมว่าแท้ที่จริงแล้ว “เงิน” นั้นคืออะไรกันแน่…

TABLE OF CONTENTS

“เงิน” โดยเบื้องต้นแล้ว คือหน่วยทางเศรษฐศาสตร์ที่คนในสังคมยอมรับเป็นมาตรฐานว่าเป็นสิ่งที่มีค่า และใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนกันได้ ซึ่งเงินจะเป็นอะไรก็ได้ อาจจะเป็นทองแดง แร่หายาก หรือวัตถุอะไรสักอย่างที่เป็นที่ยอมรับร่วมกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

สตีเฟน เซลีกา (Stephen Zarlenga) นักวิจัยและนักเขียนเกี่ยวกับทฤษฎีการเงิน ได้ให้คำนิยามของเงินไว้อย่างน่าสนใจว่า “แก่นแท้ของเงิน (นอกเหนือจากลักษณะทางกายภาพ เช่น กระดาษ หรือ เหรียญ) คือ เป็นพลังที่เป็นนามธรรมในสังคมหนึ่ง ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยกฎหมาย จนทำให้เงินสามารถใช้ซื้อสิ่งของได้โดยไม่มีเงื่อนไข”

แล้วเงินเข้ามามีบทบาทในชีวิตเราได้อย่างไร มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ประวัติศาสตร์ของเงิน จากการแลกเปลี่ยนโดยตรงในสังคมดั้งเดิม สู่เงินเฟียตที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน และมองไกลไปถึงอนาคตอย่างคริปโตเคอร์เรนซี

จุดกำเนิดของเงินเริ่มจากการแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรงในสังคมดั้งเดิม (Barter System)

ก่อนที่เงินจะถูกสร้างขึ้นมา มนุษย์ทำการแลกเปลี่ยนสิ่งของกันโดยตรง (Barter System) เช่น เอาวัวมาแลกกับอุปกรณ์ล่าสัตว์ เอาปลามาแลกกับแอปเปิ้ล นี่นับเป็นระบบทางการค้าระบบแรกในประวัติศาสตร์ และแน่นอนว่ามันย่อมมีข้อจำกัดบางอย่าง คือ การแลกเปลี่ยนสินค้ากันโดยตรงนั้นจะสำเร็จได้ต้องเป็นการยอมรับในสินค้าของทั้งสองฝ่าย หากฝ่ายหนึ่งไม่พอใจในสินค้าของอีกฝ่าย การแลกเปลี่ยนก็ไม่สำเร็จ เช่น นาย a มีหมู แต่เขาอยากกินส้ม เขาต้องการแลกเปลี่ยนหมูของเขากับส้มของนาย b แต่นาย b ไม่อยากแลกส้มของตนกับหมูของนาย a เพราะเขาอยากกินไก่มากกว่า เป็นต้น

การแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรงในสังคมดั้งเดิม นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘เงิน’ อย่างที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน

อีกทั้งในการแลกเปลี่ยน หากสินค้าที่ต้องการแลกเปลี่ยนมีขนาดใหญ่มาก อาจจะเป็นเรื่องยากในการขนย้ายไปอีกที่หนึ่ง นอกจากนี้ยังเกิดคำถามว่าสินค้าแต่ละประเภทควรมีมูลค่าการแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ การแลกเปลี่ยนนั้นถึงจะถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม

แล้วมนุษย์แก้ไขปัญหานี้อย่างไร?

สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนตัวแรกของโลกได้ถือกำเนิดขึ้น

เพื่อแก้ปัญหานี้มนุษย์จึงตกลงกันสร้างสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนขึ้นมา สื่อกลางการแลกเปลี่ยนแรกในประวัติศาสตร์ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วง 1000 ปีก่อนคริสตกาล โดยมนุษย์ได้นำวัสดุรอบๆ ตัวมาเป็นสื่อกลางในการซื้อขาย เช่น กลุ่มคนที่อยู่ใกล้ทะเลก็นำเปลือกหอยมาใช้เป็นค่าเงินกลางของกลุ่มนั้น ข้อดีของเปลือกหอยคือแข็งแรง มีขนาดเล็กพกพาสะดวก และอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ ชาวพื้นเมืองของเกาะแยป (Yap) ในไมโครนีเซีย (Micronesia) ได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะนำหินปูน (Limestone) ซึ่งเป็นหินหายากในเกาะนั้นมาเจาะรูตรงกลาง และกำหนดให้เป็นสกุลเงินของเกาะ เรียกว่า หินไร (Rai stone)

ถัดจากการแลกเปลี่ยนโดยตรงแล้ว มนุษย์ก็ได้สร้างสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนขึ้นมา เช่น เปลือกหอยของกลุ่มคนที่อยู่ใกล้ทะเล หรือหินไรของชาวพื้นเมืองในเกาะแยป

นี่นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แต่ทั้งนี้มันก็ยังมีปัญหาอยู่เช่นกัน คือ สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนนั้นเป็นที่ยอมรับแค่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น เช่น หินปูนที่หายากในเกาะแยปอาจจะมีมากในเกาะอื่น และเมื่อชาวแยปต้องการทำการซื้อขายกับคนเกาะอื่น คนเกาะอื่นก็ไม่ยอมรับการชำระด้วยหินไรของชาวแยป เพราะคนเกาะอื่นไม่ได้ยอมรับหินไรในฐานะสื่อกลางการแลกเปลี่ยน เป็นต้น

จุดเริ่มต้นของเงินตรามาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบัน

เงินเหรียญ

เงินเหรียญของอาณาจักร Lydia สร้างโดยกษัตริย์ Alyattes ในช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล เป็นเงินเหรียญแรกของโลก และนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเป็นสกุลเงินแรกในประวัติศาสตร์โลก

นี่คือจุดกำเนิดของเงินเหรียญ อันที่จริงมีการใช้โลหะเป็นเงินมาตั้งแต่สมัย 2000 ปีก่อนคริสตศักราชโดยอาณาจักรบาบิโลน แต่เหรียญที่สร้างและควบคุมโดยรัฐบาลของประเทศเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล กวีชาวกรีกชื่อ ซีโนฟาเนส (Xenophanes) ได้บรรยายถึงการสร้างเหรียญของกษัตริย์อเลียตเทส (Alyattes) แห่งอาณาจักรลิเดีย (Lydia) (ตั้งอยู่บริเวณประเทศตุรกีในปัจจุบัน) ซึ่งนักประวัติศาสตร์เชื่อว่านั่นคือสกุลเงินแรกในประวัติศาสตร์โลก มันสร้างขึ้นโดยใช้อิเล็กทรัม (electrum: โลหะผสมระหว่างทองคำกับเงินซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ) โดยมีจุดเด่นคือทุกเหรียญจะถูกประทับตราด้วยรูปหัวสิงโตซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ลิเดีย และระบบเหรียญของอาณาจักรลิเดียนั้นก็ช่วยสนับสนุนการค้าทั้งภายในและภายนอกอาณาจักร จนส่งผลให้ลิเดียเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่มั่งคั่งที่สุดในเอเชียไมเนอร์ จนเกิดวลีที่ว่า “As rich as Croesus” (มั่งคั่งเหมือนพระเจ้าครีซัส) ซึ่งพระเจ้าครีซัสคือกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งอาณาจักรลิเดีย

หลังจากนั้นการใช้ระบบเหรียญก็แพร่ไปในหลายประเทศอย่างกรีก, เปอร์เซีย, มาซีโดเนีย รวมถึงอาณาจักรโรมันด้วย

เงินจากหนังสัตว์

ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงจากเหรียญไปเป็นเงินกระดาษ มีรายงานว่าในสมัยจักรพรรดิหวู่ (Wudi) ของจีน (141-87 ปีก่อนคริสตศักราช) มีการสร้างสกุลเงินจากหนังกวางขาวและนำมาตกแต่งอย่างสวยงาม ถือเป็นเงินในรูปแบบธนบัตรชนิดแรกของโลก ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเงินรูปแบบนี้เองที่เป็นที่มาของคำว่า Buck ที่เป็นคำแสลงเอาไว้เรียกเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

การเปลี่ยนแปลงมาสู่เงินกระดาษ

เงินกระดาษชนิดแรกสร้างขึ้นจากเปลือกของต้นหม่อน ในปี ค.ศ. 700 โดยประเทศจีน

ในขณะที่ยุโรปยังคงใช้เหรียญโลหะเป็นสกุลเงินกันอยู่จนถึงศตวรรษที่ 16 ในค.ศ. 700 ในสมัยของจักรพรรดิเจิ้นจง (Zhenzong) ประเทศจีนได้สร้างเงินกระดาษไว้ใช้กันแล้ว ซึ่งนั่นถูกบันทึกว่าเป็นเงินกระดาษชนิดแรกของโลก โดยมันทำมาจากเปลือกของต้นหม่อน

หลังจากนั้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศรรษวรรษที่ 19 เงินกระดาษก็ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก แต่เงินกระดาษในช่วงนั้นยังไม่ใช่ธนบัตรที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน แต่มันเป็นตั๋วสัญญา ที่อีกฝ่ายสัญญาว่าจะจ่ายทองคำหรือเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้

เช่น นาย A ไปซื้อเสื้อที่ตลาดมูลค่า 500 บาท ด้วยเงินกระดาษ พ่อค้าที่ขายเสื้อที่ได้รับเงินกระดาษมาก็สามารถนำเงินกระดาษไปแลกเป็นทองคำมูลค่า 500 บาทได้ที่ธนาคาร ขณะเดียวกันนาย A ที่มีเงินกระดาษมูลค่า 500 บาท นาย A ก็สามารถนำเงินกระดาษไปแลกเปลี่ยนเป็นทองคำหรือเงินมูลค่า 500 บาท เงินกระดาษมูลค่า 500 บาทสามารถนำไปแลกเป็นเหรียญหรือสิ่งของที่มีมูลค่าเท่ากับหรือน้อยกว่า 500 บาทได้

ซึ่งระบบนี้เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาธนาคารในเวลาต่อมา

แล้วหน้าที่พื้นฐานของ “เงิน” คืออะไรกันแน่?

เงินมีหน้าที่พื้นฐานอยู่ 3 ประการ คือ เป็นหน่วยกลางในการแลกเปลี่ยน (A medium of exchange) เป็นหน่วยวัดมูลค่า (Unit of Account) และเป็นหน่วยเก็บรักษามูลค่า (Store of Value)

1. หน่วยกลางในการแลกเปลี่ยน | A medium of exchang

ลองจินตนาการว่าคุณมีหมูแต่อยากกินไก่ คุณต้องจูงหมูไปแลกไก่ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่สะดวกเลยดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสิ่งของต่างๆ มนุษย์ต้องใช้หน่วยกลางเพื่อให้เกิดความเข้าใจในมูลค่าที่ตรงกัน และหน่วยกลางที่มนุษย์เลือกใช้ก็คือ ‘เงิน’ 

2. หน่วยวัดมูลค่า | Unit of Account

หากเราถามใครสักคนว่าซื้อของมาด้วยราคาเท่าไหร่ คำตอบก็คงจะประมาณว่า ‘ฉันซื้อนมกล่องนี้มาในราคา 10 บาท’ หรือ ‘ฉันซื้อพิซซ่าถาดนี้มาในราคา 15 ดอลลาร์’ เราจะไม่บอกว่า ‘ฉันซื้อพิซซ่าถาดนี้มาด้วยนม 10 กล่อง’ เพราะคู่สนทนาอาจจะไม่รู้จักนมกล่องหรือนึกไม่ออกว่ามูลค่าของนมกล่องที่เราพูดถึงนั้นคือเท่าไหร่กันแน่ ดังนั้นเราจึงบอกคุณค่าของสิ่งของด้วยหน่วยเงินซึ่งเป็นหน่วยที่เราเข้าใจตรงกันแทน นั่นจึงทำให้เงินทำหน้าที่เป็นหน่วยวัดมูลค่า

3. หน่วยเก็บรักษามูลค่า | Store of Value

หากคุณลืมแบงค์ 1000 บาทไว้ในกระเป๋าเสื้อเมื่อปีที่แล้ว แล้วคุณบังเอิญเจอมันคุณย่อมดีใจแน่นอน นั่นเพราะแบงค์ 1000 ใบนั้นยังคงมีมูลค่า 1000 บาทอยู่ มันยังมีมูลค่าอย่างที่มันควรจะเป็นแม้ว่าเวลาจะผ่านไป 1 ปีแล้วก็ตาม เพราะแบงค์ใบนั้นมีหน้าที่ในการ ‘เก็บ’ มูลค่าไว้

แต่เงินไม่ใช่หน่วยเก็บรักษามูลค่าที่ไม่มีความเสี่ยงเลย นั่นเพราะหากเกิดภาวะเงินเฟ้อเงินก็จะมีมูลค่าน้อยลงกว่าที่มันเคยเป็น

คุณสมบัติที่สำคัญ 7 ข้อที่ทำให้ “เงิน” เป็น “เงิน”

1. เงินต้องมีความคงทน | Durable

เงินมีหน้าที่เก็บรักษามูลค่า หากมันไม่มีความคงทน แน่นอนว่ามูลค่านั้นก็จะสูญหายไปด้วยเช่นกัน

2. สามารถพกพาได้ | Portable

หนึ่งในเหตุผลที่เงินได้กลายมาเป็นสื่อกลางในการซื้อขาย คือ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยน ดังนั้นในฐานะตัวกลางในการซื้อขาย เงินจึงต้องสามารถพกพาไปได้ทุกที่

3. สามารถแบ่งเป็นหน่วยย่อยได้ | Divisibility

เงินต้องสามารถแบ่งแยกเป็นหน่วยย่อยได้เพื่อให้ง่ายในการนำไปใช้ซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนกับสินค้าทุกชนิด ทุกช่วงราคา เช่น เงิน 1 ดอลลาร์สามารถแบ่งเป็น 100 เซนต์ หรือ 1 บาท สามารถแบ่งออกได้เป็น 100 สตางค์

4. มีความเป็นเอกภาพ | Uniformity

หมายถึงเงินในสกุลเดียวกันต้องมีความสามารถในการซื้อขายหรือมีมูลค่าอย่างเท่าเทียมกัน เช่น นาย ก. ยืมเงินนาย ข. 1000 บาท ตอนคืนเงิน นาย ก. ไม่จำเป็นต้องเอาเงินใบเดียวกับที่ยืมไปมาคืน เพราะเงิน 1000 บาท ทุกใบมีค่าเท่าเทียมกัน

5. มีจำนวนจำกัด | Scarcity

เงินหมุนเวียนในแต่ละประเทศจะต้องมีจำนวนจำกัดเพื่อให้มูลค่าของเงินคงที่ หากมีจำนวนเงินมากไปจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และทำให้เงินมีค่าลดลง

6. เป็นที่ยอมรับ | Acceptability

ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมาก คือ เงินต้องเป็นที่ยอมรับของทุกคนในสังคม จึงจะสามารถใช้เป็นสื่อกลางของการแลกเปลี่ยนได้ หากคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ยอมรับ เห็นค่าร่วมกัน สิ่งนั้นก็จะไม่สามารถเป็นเงินได้นั่นเอง

7. ไม่สามารถปลอมแปลงได้ | Non-counterfeitability

เงินต้องไม่สามารถปลอมแปลงได้ง่าย เพื่อป้องกันการปลอมแปลง

Gold Standard คืออะไร ทำไมการประกาศยกเลิกในปี 1971 ถึงเป็นเรื่องสำคัญ

Gold Standard คืออะไร?

Gold Standard (ระบบมาตรฐานทองคำ) เป็นระบบการเงินรูปแบบหนึ่งที่เงินนั้นมีมูลค่าเชื่อมโยงโดยตรงกับทองคำ เช่น ถ้ารัฐบาล A ใช้ Gold Standard และมีทองคำมูลค่า 1,000 บาท รัฐบาล A ก็จะสามารถพิมพ์เงินออกมาเพื่อใช้หมุนเวียนในระบบได้ตามมูลค่าทองที่มีนั่นก็คือ 1,000 บาท

Gold Standard (ระบบมาตรฐานทองคำ) เป็นระบบการเงินรูปแบบหนึ่งที่เงินนั้นมีมูลค่าเชื่อมโยงโดยตรงกับทองคำ

ยุคทองของ Gold Standard

Gold Standard ถูกใช้เป็นระบบการเงินระหว่างประเทศอย่างแพร่หลายในหลายประเทศตั้งแต่ปี 1870 จนถึงช่วงต้นทศวรรษของปี 1920 โดยอังกฤษเป็นประเทศแรกที่ประกาศใช้ Gold Standard ในปี 1821 หลังจากนั้นประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ก็เริ่มนำ Gold Standard มาใช้

ข้อดีและความไม่ยืดหยุ่นของ Gold Standard

แน่นอนว่าระบบ Gold Standard ที่ถูกคิดค้นและใช้กันมานานก็ย่อมต้องมีข้อดี และข้อดีที่ว่านั้นก็คือ มันสามารถป้องกันเงินเฟ้อได้ (Inflation rate) และยังมีส่วนช่วยในการรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้าต่างๆ รวมไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนของเงินตราด้วย เพราะรัฐบาลเองไม่สามารถควบคุมการเพิ่มปริมาณเงินได้ คือ ไม่สามารถพิมพ์เงินออกมามากเกินไปได้

แต่เมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลเริ่มมองแล้วว่าการที่ไม่สามารถควบคุมปริมาณเงินในระบบได้ ก็มีข้อเสียใหญ่หลวง(ในมุมของรัฐบาล) นั่นก็คือ ถ้าจะพิมพ์เงินเพิ่มก็ต้องหาทองคำเพิ่มให้ทันกับเงินที่พิมพ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยืดหยุ่น โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่หรือทดถอย แถมการขุดทองยังมีต้นทุนที่สูงมากอีกด้วย นั้นทำให้รัฐบาลต่างๆ เริ่มมองหาหนทางใหม่เพื่อใช้เป็นฐานเศรษฐกิจของโลก ซึ่งก็คือระบบ Fiat Money หรือ “เงินที่ไม่ได้มีมูลค่าในตัวมันเอง”

การสิ้นสุดของยุค Gold Standard

อังกฤษซึ่งเป็นประเทศแรกที่ใช้ Gold Standard ได้ประกาศยกเลิกใช้ระบบนี้ในวันที่ 20 กันยายน 1931 หลังจากนั้นอเมริกาก็เริ่มต้นกระบวนการยกเลิกตามมาติดๆ ในปี 1933 แต่กว่าอเมริกาจะสามารถเคลียร์สิ่งต่างๆ และยกเลิกได้อย่างแท้จริงก็กินระยะเวลามาจนถึงปี 1973 ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการใช้ Gold Standard ของอเมริกา และถูกแทนที่ด้วยระบบ Fiat Money โดยสมบูรณ์

โดยประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ ณ ตอนนั้นเป็นคนอ่านคำแถลงการณ์ เกี่ยวกับการยกเลิก Gold Standard ในวันที่ 15 สิงหาคม 1971 ซึ่งเป็นคำแถลงการณ์ที่ถูกพูดถึง และเปิดดูจากคนที่สนใจจนถึงทุกวันนี้ที่รู้จักกันในชื่อ The Nixon Shock

ประธานาธิบดี Richard Nixon ขณะอ่านแถลงการณ์ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Nixon Shock ซึ่งก็คือการประกาศยกเลิกการผูกเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้กับทองคำ | ภาพจาก Nixonfoundation

และเมื่อ Gold Standard ถูกแทนที่ด้วย Fiat Money นั้นหมายความว่าเมื่อมีปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลก็จะสามารถพิมพ์เงินเพื่อมาใช้ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้ที่มีมูลค่าเพราะมันไม่ได้มีเยอะจนเกินไป ถ้ามันมีเยอะจนล้นกับความต้องการมูลค่ามันก็จะลดลงเรื่อยๆ หรืออาจจะไม่มีเลย… “เงิน” ก็เช่นกัน หรือที่เรารู้จักกันดีในคำศัพท์ที่เรียกว่า Inflation หรือ “เงินเฟ้อ” แน่นอนว่าการยกเลิกใช้ Gold Standard ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างแน่นอน

Fiat Money คืออะไร? ทำไมทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินออกมาได้ไม่จำกัด

Fiat Money หรือ “เงินกระดาษ” คือ เงินที่ไม่ได้มีมูลค่าโดยตัวมันเอง เป็นสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาลโดยที่ไม่มีสินค้าโภคภัณฑ์หนุนหลัง เช่น ทองคำ หรือ แร่เงิน แต่ถูกรับรองโดยรัฐบาลที่ออกสกุลเงินนั้นๆ โดยมูลค่าของ Fiat Money นั้นจะเกิดขึ้นจาก อุปสงค์ อุปทาน (Demand Supply) ความมั่นคงของตัวรัฐบาลผู้ออกเงิน และความเชื่อมั่นของผู้คนที่ถือสกุลเงินนั้นๆ โดยจะไม่อิงกับมูลค่าของสิ่งที่หนุนหลังอยู่เพราะระบบ Fiat Money ไม่มีอะไรหนุนหลัง

Fiat Money หรือเงินกระดาษ คือ เงินที่ไม่ได้มีมูลค่าโดยตัวมันเอง เป็นสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาลโดยที่ไม่มีสินค้าโภคภัณฑ์หนุนหลัง

ยุคนี้เป็นยุคของ Fiat Money

หลังจากเหตุการณ์ The Nixon Shock ในปี 1971 ถือได้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดยุคของ Gold Standard อย่างแท้จริง และหลังจากนั้นแทบทุกประเทศส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ก็หันมาใช้ระบบ Fiat Money จนถึงปัจจุบันนี้

“เงินเฟ้อ” ความเสี่ยงสำคัญในด้านมูลค่าของระบบ Fiat Money

เนื่องจาก Fiat Money เป็นระบบการเงินที่ไม่มีอะไรหนุนหลัง ไม่ได้เชื่อมโยงตัวเองเข้ากับมูลค่าของสิ่งที่มีค่าอย่าง ทองคำ แร่เงิน หรือใดๆ ทำให้สกุลเงินที่เป็น Fiat Money มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียมูลค่าของตัวมันเองเนื่องจากเงินเฟ้อ (Inflation) และถ้าในกรณีที่ร้ายแรงมากๆ คือ เกิดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation) ก็อาจจะทำให้เงินนั้นแทบจะไม่มีมูลค่าไปเลยก็ได้ ซึ่งเกิดได้จากการที่รัฐบาลพิมพ์เงินออกมาในระบบเยอะเกินไป หรือผู้คนไม่มีความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลที่พิมพ์เงินออกมา

ภาวะเงินเฟ้อในประเทศเวเนซุเอล่า โดยในปี 2016 เวเนซุเอลาเริ่มเข้าสู่สภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงโดยมีอัตราเงินเฟ้อในปีนั้นอยู่ที่ 274%, 863% ในปี 2017, 130,060% ในปี 2018 และ 9,586% ในปี 2019

เวเนซุเอลา (Venezuela) เป็นหนึ่งในตัวอย่างสำคัญของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง เนื่องจากมีเงินในระบบมากเกินไป โดยในปี 2016 เวเนซุเอลาเริ่มเข้าสู่สภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงโดยมีอัตราเงินเฟ้อในปีนั้นอยู่ที่ 274%, 863% ในปี 2017, 130,060% ในปี 2018 และ 9,586% ในปี 2019

ภาพแสดงถึงอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งคือการที่อำนาจในการซื้อของเงินสกุลนั้นๆ ลดลง

ซึ่ง “เงินเฟ้อ” ที่ว่าก็ คือ การที่อำนาจในการซื้อ (Purchasing Power) ของเงินสกุลนั้นๆ ที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างเช่น เมื่อ 10 ปีก่อน เงิน 30 บาท อาจจะสามารถซื้อกาแฟได้ 1 แก้ว แต่ปัจจุบันต้องใช้เงิน 60 บาท ในการซื้อกาแฟ 1 แก้ว อันนี้คือเงินเฟ้อ 100% ใน 10 ปี เพราะคุณต้องจ่ายเพิ่ม 1 เท่าเพื่อซื้อของชิ้นเดิม แน่นอนว่าของจริงจะใช้วิธีชี้วัดที่ละเอียดกว่านี้ซึ่งเราจะไม่ลงรายละเอียดเรื่องนั้นในบทความนี้

รูปแบบของเงินในยุคปัจจุบันเป็นอย่างไร

การเงินในยุคปัจจุบันดูจะเป็นเรื่องง่ายเพราะเราทุกคนรู้จัก “เงินสด” ที่อยู่ในรูปแบบแบงค์ เหรียญต่างๆ และใช้สอยมันแทบจะทุกวันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเงินสดยังมีความสำคัญในการใช้อยู่บ้าง แต่อีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน นั่นก็คือบัตรเครดิตและบัตรเดบิต

และถัดมาเมื่อสมาร์ทโฟนได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา การทำธุรกรรมต่างๆ ก็ถูกขับเคลื่อนไปอีกขั้นไปเป็นรูปแบบออนไลน์ (Online) ที่เราสามารถใช้เงินที่เป็นเพียงตัวเลขที่อยู่ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-money อย่างที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

รูปแบบถัดไปของเงินคืออะไร คริปโตเคอร์เรนซีจะเป็นนวัตกรรมใหม่ของเงินหรือไม่?

อนาคตทางการเงินโลกจะเป็นอย่างไร คริปโตเคอร์เรนซีถือเป็นเงินได้หรือไม่

เมื่อรู้จักกับเงินมาแล้ว หลายคนคงอาจเกิดคำถามที่ว่า แล้วสกุลเงินเข้ารหัสหรือคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่เพิ่งได้รับความนิยมและเข้ามามีบทบาทอย่างมากในระบบเศรษฐกิจโลกราวๆ หนึ่งทศวรรษที่ผ่านมานี้ล่ะ นับเป็นเงินหรือไม่?

หากจะตอบคำถามนี้ก็คงต้องย้อนกลับไปยังพื้นฐานของเงินที่ว่า การมีอยู่ของเงินตั้งอยู่บนข้อตกลงร่วมกันของมนุษย์ในสังคมว่าเป็นสิ่งของบางอย่างที่สามารถรักษามูลค่าและสามารถเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้ ดังนั้นมันไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องให้ผู้มีอำนาจ (เช่น รัฐบาล) มากำหนดว่าสิ่งใดควรจะเป็นเงิน ตราบใดที่คริปโตเคอร์เรนซี่ได้รับการยอมรับจากคนในสังคมว่าสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งของและบริการได้ มันก็สามารถที่จะเป็นเงินได้เช่นกันนั่นเอง

References : Investopedia(1), Investopedia(2), Investopedia(3), Britannica, PBS, Mint.intuit, Wikipedia(1), NPR, E-ma, Wikipedia(2)


Credits
Content Creator :
ประเสริฐ หงษ์สุวรรณ, กนกศักดิ์ เรือนทอง, ธนณัฐ โอภาษี
Graphic Designer : ศุภัชฌา ใช้สติ
Admin : ณิชากร วิทยาวิวัฒน์สกุล  
Editor : ประเสริฐ หงษ์สุวรรณ
Enter to Start Team
Enter to Start Teamhttps://entertostart.co
ทีมคนสร้างสื่อที่ตั้งใจจะสร้างพื้นที่แห่งการแบ่งปันข้อมูลในโลกธุรกิจ การลงทุน และคริปโต เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ ผ่านคอนเทนต์ที่ย่อยง่าย เข้าใจได้ไม่ยาก

เรื่องยอดนิยมวันนี้

เรื่องยอดนิยม 7 วัน

เรื่องยอดนิยมวันนี้ | POPPULAR TODAY

เรื่องยอดนิยม 7 วัน | POPPULAR IN 7 DAYS

เตรียมตัวให้พร้อม! แนะนำแนวทางการเข้าร่วม Gas Fee Airdrop ของ ZKFair 23 ธ.ค.นี้

ZKFair เป็นเครือข่าย L2 ตัวแรกบน Polygon ZK กับ Celestia DA โดยได้พลังประมวลผลจาก Lumoz ทำให้ไม่มีนักลงทุน ไม่มีการสำรองเงิน และไม่มีการขุดล่วงหน้า มั่นใจได้ในความยุติธรรมอย่างที่สุด เตรียมจัดกิจกรรม Gas Fee Airdrop ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ผู้สนใจสามารถดูอธิบายรายละเอียดกิจกรรมและแนวทางให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมและรับรางวัลได้ที่นี่  ทั้งนี้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้ในคอมมูนิตี...

รายงานชี้เอลซัลวาดอร์ยังขาดทุน Bitcoin หลังทำ DCA มาเกือบ 1 ปี

ในเดือนพฤศจิกายน 2022 Nayib Bukele ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ ประกาศจะทำการลงทุนแบบ DCA ด้วยการสัญญาว่าจะซื้อ Bitcoin 1 BTC ทุกวัน พร้อมเปิดเผยว่า เอลซัลวาดอร์มี Bitcoin 2,381 BTC ที่ราคาเฉลี่ย 44,300 ดอลลาร์ แต่ราคา Bitcoin ในตอนนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 19,000 ดอลลาร์ ทำให้ขาดทุนอยู่ประมาณ 60 ล้านดอลลาร์

หรือนี่จะเป็นอีกก้าวที่น่าจับตามอง ‘CZ’ CEO ของ Binance อาจช่วย Elon Musk นำ Twitter เข้าสู่ Web 3

Changpeng Zhao ยินดีที่จะช่วย Elon Musk พา Twitter เข้าสู่ Web3 เพื่อให้แน่ใจว่าคริปโตจะมีพื้นที่ในการถูกพูดถึงอย่างเสรี

Forgotten Playland ระดมทุน 7 ล้านดอลลาร์ เล็งเปิดตัวเกมในไตรมาสแรกปีนี้

Vermilion Studios สตูดิโอผู้สร้างเกม Forgotten Playland เกมแนวโซเชียลปาร์ตีล้ำสมัย ประกาศระดมทุน 7 ล้านดอลลาร์ จาก Merit Circle, Paper Ventures, Spartan Group และ C2 Ventures พร้อมเล็งเปิดตัวเกมไตรมาสแรกปีนี้ Forgotten Playland เป็นความร่วมมือระหว่าง Duckland Games...

ใจเย็น ๆ! TD Cowen คาด SEC จะไม่อนุมัติ Spot Ethereum ETF เร็ว ๆ นี้

TD Cowen ธนาคารเพื่อการลงทุน คาดการณ์ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐ ไม่น่าจะอนุมัติ Spot Ethereum ETF ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่เส้นตายการอนุมัติเบื้องต้นอยู่ในเดือนพฤษภาคม TD Cowen Washington Research Group นำโดย Jaret Seiberg ระบุว่า “เราคาดว่า...

S&P Global เปิดเผยการจัดอันดับ stablecoin โดย GUSD, USDP, USDC ครองอันดับ 1 ร่วม

S&P Global เปิดตัวการประเมินเสถียรภาพของ stablecoin 8 เหรียญ ได้แก่ Dai (DAI), First Digital USD (FDUSD), Tether (USDT), Frax (FRAX), Gemini Dollar (GUSD), Pax Dollar (USDP), TrueUSD...

ทำความรู้จัก Notcoin (NOT) เหรียญบน Telegram ที่จิ้มแล้วได้เงิน

Notcoin (NOT) เริ่มจากเกมบน Telegram ที่สร้างโดย Open Builder ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปรู้จักกับโลก Web3 ผ่านกลไกการขุดเหรียญแบบ tap-to-earn (จิ้มหน้าจอแล้วได้เงิน) ด้วยวิธีการเล่นและได้เงินที่ง่ายแสนง่าย ทำให้มียอดผู้เล่นกว่า 35 ล้านราย และยอด active user 6 ล้านราย ต่อวัน ตัวเลขดังกล่าวทำให้ Notcoin จัดเป็นหนึ่งในเกมคริปโตที่เป็นที่นิยมมากที่สุด...

Arkham Intelligence เผยมีผู้ได้รับ airdrop Ethena มูลค่าเกือบ 2 ล้านดอลลาร์

พบผู้โชคดีได้รับ airdrop จาก Ethena Labs มูลค่าเกือบ 2 ล้านดอลลาร์ จากการแจก Ethena (ENA) เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา Arkham Intelligence ระบุว่า ผู้โชคดีดังกล่าวเป็นเจ้าของกระเป๋า 0xb56 ได้รับ 3.3 ล้าน Ethena คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.96...

Dogecoin เป็นของ Elon Musk? เปิดประวัติผู้สร้าง Dogecoin ตัวจริง

Dogecoin สุดยอดเหรียญมีมที่ทุกคนในโลกคริปโตต่างรู้จัก และน่าจะเป็นเหรียญมีมที่โด่งดังที่สุดสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้สนใจในคริปโต Dogecoin เคยช่วยพลิกสถานะทางการเงินของหลายคน ทำให้หลายคนร่ำรวยขึ้นมา เพียงแต่ผู้ที่สร้างเหรียญนี้กลับไม่ได้รับอะไรเช่นนั้นเลย เพราะอะไร เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เรามาหาคำตอบกัน

Wormhole เผยรายละเอียด Tokenomic กลุ่มไหนได้เท่าไหร่ดูได้ที่โพสต์นี้

Web3 มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมอินเทอร์เน็ตที่โปร่งใส trustless เปิดกว้าง และปลอดภัย วิสัยทัศน์นี้พึ่งพา ecosystem ที่ปลอดภัยและเชื่อมต่อกันอย่างราบรื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ Web3 ecosystem ต้องการโปรโตคอลการส่งข้อความพื้นฐานที่ปลอดภัย decentralized ลดการ trust ลงให้น้อยที่สุด และเป็นโอเพ่นซอร์ส เมื่อ 3 ปีที่แล้ว Wormhole (@wormholecrypto) เปิดตัวโปรโตคอลการส่งข้อความทั่วไปตัวแรกที่เชื่อมต่อกับ Ethereum...

Richard Teng เผยเส้นทางจากการกำกับดูแลสายการเงินสู่ซีอีโอ Binance

เมื่อคืนที่ผ่านมา คุณ Richard Teng ซีอีโอของ Binance ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวการเดินทางจากสายการเงินแบบดั้งเดิมสู่โลก Web3 ใน Ask Me Anything โดย CoinMarketCap คุณ Richard ระบุว่า ตัวเค้ามาจากสายการเงินแบบดั้งเดิมและทำหน้าที่ในหน่วยงานกำกับดูแลเป็นส่วนใหญ่ แต่จุดเปลี่ยนก็มาถึงในปี 2017 ที่เค้าเดินทางไปสัมมนาในสหรัฐและได้เจอกับคนในวงการคริปโตมากมาย ซึ่งนั่นสร้างความสนใจให้กับเขา เพราะในมุมมองของคุณ Richard นั้น...

คึกคักสุด ๆ! ปริมาณซื้อขาย Spot Bitcoin ETF วันแรก พุ่งทะลุ 4.5 พันล้านดอลลาร์

Cointelegraph รายงานว่า ปริมาณการซื้อขาย Spot Bitcoin ETF ในวันแรกพุ่งทะลุ 4.5 พันล้านดอลลาร์ โดย ETF ของ BlackRock, Grayscale และ Fidelity มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด ขณะเดียวกัน ETF ของ Hashdex ยังไม่สามารถซื้อขายได้เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐยังไม่ได้อนุมัติแบบฟอร์ม...

บทความที่เกี่ยวข้อง | RELATED ARTICLE

‘สี’ อีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม : เมื่อสีส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุน

อารมณ์และสภาพจิตใจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการซื้อขายอย่างมาก และ 'สี' เอง ก็เป็นปัจจัยเล็กๆ ที่ผลกระทบต่อนักลงทุนเช่นกัน

กรณีศึกษา Art Toy จากของสะสมสู่การเก็งกำไรหลักแสน

KEY TAKEAWAYS Art Toy คือ งานศิลปะที่ออกแบบมาให้เป็นของเล่นของสะสม แต่ละเซ็ทจะมีจำนวนตัวไม่เท่ากัน แต่มักไม่เกิน 12 ตัวต่อเซ็ท บ้างก็เรียก Designer Toy ปัจจุบันมักมาในรูปแบบของกล่องสุ่ม โดยจะมีตัว Secret ให้สุ่มหา  Art Toy มักจะมีหลายรุ่น เช่น Vol.1, 2, 3 ซึ่งหากอยากเก็บให้ครบก็ต้องใช้เงินพอสมควร และยิ่งถ้าเข้ามาเก็บสะสมตอนที่หยุดผลิตไปแล้วล่ะก็...

ทำความรู้จัก Notcoin (NOT) เหรียญบน Telegram ที่จิ้มแล้วได้เงิน

Notcoin (NOT) เริ่มจากเกมบน Telegram ที่สร้างโดย Open Builder ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปรู้จักกับโลก Web3 ผ่านกลไกการขุดเหรียญแบบ tap-to-earn (จิ้มหน้าจอแล้วได้เงิน) ด้วยวิธีการเล่นและได้เงินที่ง่ายแสนง่าย ทำให้มียอดผู้เล่นกว่า 35 ล้านราย และยอด active user 6 ล้านราย ต่อวัน ตัวเลขดังกล่าวทำให้ Notcoin จัดเป็นหนึ่งในเกมคริปโตที่เป็นที่นิยมมากที่สุด...

Timeline ย้อนรอยราคา Bitcoin

Bitcoin ร่วงจากจุดสูงสุดไปอยู่ที่ประมาณ 15,500 ในเดือนพฤศจิกายน 2021 และใช้เวลาประมาณ 1 ปีพุ่งขึ้นมา 130% สู่ระดับ 36,000 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน ในช่วงเวลา 1 ปีนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

สรุป AMA! โปรเจกต์ GuildFi

GuildFi โปรเจกต์ไทยยักษ์ใหญ่ที่ระดมทุนไปได้กว่า 4,700 ล้านบาท อัพเดทแผนใหญ่ปี 2023 รวมถึงภาพรวมในอนาคต!

ทำไม Money Management ถึงสำคัญกับนักลงทุน

อย่าลืมบริหารจัดการเงินให้ดี เพราะนี่คือหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุน เพื่อจะทำให้อยู่ในตลาดได้นานขึ

10 อันดับกองทุนชื่อดังในโลกคริปโต

ทำความรู้จักกับ 10 กองทุนชื่อดังในโลกคริปโต กองทุนไหนมีเงินทุนเท่าไหร่ ลงทุนในโปรเจกต์ไหนบ้าง น่าสนใจหรือไม่อย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง | RELATED NEWS

JPMorgan ปรับเพิ่มราคาประเมินต้นทุนขุด Bitcoin เป็น 45,000 ดอลลาร์

JPMorgan ปรับเพิ่มราคาประเมินต้นทุนการขุด Bitcoin จากเดิม 42,000 ดอลลาร์ ต่อ Bitcoin เป็น 45,000 ดอลลาร์ ต่อ Bitcoin เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของ hashrate ในการขุด Bitcoin ทีมนักวิเคราะห์ของ JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou ระบุว่า “ก่อนหน้านี้เราคาดว่า hashrate...

ทำความรู้จัก Notcoin (NOT) เหรียญบน Telegram ที่จิ้มแล้วได้เงิน

Notcoin (NOT) เริ่มจากเกมบน Telegram ที่สร้างโดย Open Builder ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปรู้จักกับโลก Web3 ผ่านกลไกการขุดเหรียญแบบ tap-to-earn (จิ้มหน้าจอแล้วได้เงิน) ด้วยวิธีการเล่นและได้เงินที่ง่ายแสนง่าย ทำให้มียอดผู้เล่นกว่า 35 ล้านราย และยอด active user 6 ล้านราย ต่อวัน ตัวเลขดังกล่าวทำให้ Notcoin จัดเป็นหนึ่งในเกมคริปโตที่เป็นที่นิยมมากที่สุด...

นวัตกรรมเปลี่ยนโลก! ChatGPT อัปเกรดล่าสุด สามารถตอบโต้ด้วยภาพและเสียงได้แล้ว!!!

OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ประกาศอัปเกรดล่าสุด GPT-4o ซึ่งมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ช่างพูดคุยมากขึ้น รวมถึงสามารถโต้ตอบภาพและวิดีโอของผู้ใช้ได้แบบเรียลไทม์ OpenAI ปล่อยวิดีโอตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นความสามารถของ GPT-4o เช่น ช่วยเตรียมตัวสัมภาษณ์, ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอเปลี่ยน iPhone, เล่น dad joke (คล้ายมุกแป้กของไทย), แปลบทสนทนาแบบเรียลไทม์, เป็นกรรมการตัดสินเป่ายิ้งฉุบ รวมถึงเหน็บแนมได้ด้วย ขณะเดียวกัน ยังมีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นปฏิกิริยาของ ChatGPT...

JPMorgan ปรับเพิ่มราคาประเมินต้นทุนขุด Bitcoin เป็น 45,000 ดอลลาร์

JPMorgan ปรับเพิ่มราคาประเมินต้นทุนการขุด Bitcoin จากเดิม 42,000 ดอลลาร์ ต่อ Bitcoin เป็น 45,000 ดอลลาร์ ต่อ Bitcoin เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของ hashrate ในการขุด Bitcoin ทีมนักวิเคราะห์ของ JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou ระบุว่า “ก่อนหน้านี้เราคาดว่า hashrate...

ทำความรู้จัก Notcoin (NOT) เหรียญบน Telegram ที่จิ้มแล้วได้เงิน

Notcoin (NOT) เริ่มจากเกมบน Telegram ที่สร้างโดย Open Builder ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปรู้จักกับโลก Web3 ผ่านกลไกการขุดเหรียญแบบ tap-to-earn (จิ้มหน้าจอแล้วได้เงิน) ด้วยวิธีการเล่นและได้เงินที่ง่ายแสนง่าย ทำให้มียอดผู้เล่นกว่า 35 ล้านราย และยอด active user 6 ล้านราย ต่อวัน ตัวเลขดังกล่าวทำให้ Notcoin จัดเป็นหนึ่งในเกมคริปโตที่เป็นที่นิยมมากที่สุด...

นวัตกรรมเปลี่ยนโลก! ChatGPT อัปเกรดล่าสุด สามารถตอบโต้ด้วยภาพและเสียงได้แล้ว!!!

OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ประกาศอัปเกรดล่าสุด GPT-4o ซึ่งมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ช่างพูดคุยมากขึ้น รวมถึงสามารถโต้ตอบภาพและวิดีโอของผู้ใช้ได้แบบเรียลไทม์ OpenAI ปล่อยวิดีโอตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นความสามารถของ GPT-4o เช่น ช่วยเตรียมตัวสัมภาษณ์, ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอเปลี่ยน iPhone, เล่น dad joke (คล้ายมุกแป้กของไทย), แปลบทสนทนาแบบเรียลไทม์, เป็นกรรมการตัดสินเป่ายิ้งฉุบ รวมถึงเหน็บแนมได้ด้วย ขณะเดียวกัน ยังมีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นปฏิกิริยาของ ChatGPT...

ก็น่ารักอะ! Pudgy Penguins ประกาศยอดขายตุ๊กตา ไม่ถึงปีทะลุ 1 ล้านตัวแล้ว

Pudgy Penguins หนึ่งในสิบ NFT collection ที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด ประกาศว่าสามารถขายตุ๊กตาของเล่นไปได้กว่า 1 ล้านตัว ผ่านช่องทางค้าปลีกต่างๆ Luca Netz ซีอีโอของ Pudgy Penguins ประกาศในวิดีโอผ่านทาง X (ทวิตเตอร์เดิม) ว่า ตุ๊กตาของเล่นมียอดขายกว่า 1 ล้านตัวแล้วในเวลาเพียงไม่ถึง 1 ปี พร้อมแย้มว่าจะมีการร่วมมือกับผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

Save Settings