KEY TAKEAWAYS
- ‘ควรลงทุนในอะไรดี’ เป็นคำถามที่ Warren Buffett ได้ยินมาโดยตลอด และคำแนะนำของเขาก็คือ ‘ลงทุนในตัวเอง’
- ‘อยากฉลาดให้อ่านหนังสือวันละ 500 หน้า และมันเหมือนกับดอกเบี้ยทบต้น’
- การพัฒนาทักษะการสื่อสารสามารถ ‘เพิ่มมูลค่าให้คุณได้มากขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์’
- ‘คุณคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ’
หากมีคนมาบอกว่า ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) คือหนึ่งในนักลงทุนที่เก่งที่สุดตลอดกาล’ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยหากจะไม่มีคนแย้งคำกล่าวนี้ เพราะความสำเร็จตลอดชีวิตการลงทุนของเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
ในวัย 92 ปี Buffett เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของโลก ด้วยทรัพย์สิน 1.18 แสนล้านดอลลาร์ เขาเป็นประธานและ CEO ของบริษัทโฮลดิ้ง Berkshire Hathaway ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ด้วยมูลค่า 6.90 แสนล้านดอลลาร์
ดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจหาก Buffett จะได้รับคำถามซ้ำๆ ว่า ‘ควรลงทุนในอะไรดี’
คำแนะนำ ‘การลงทุนที่ดีที่สุด’ จากชายผู้เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่เก่งที่สุดในโลกคือ “ลงทุนในตัวคุณเอง”
“การลงทุนในตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อะไรก็ตามที่สามารถพัฒนาความสามารถของคุณได้ ไม่มีใครเก็บภาษีหรือแย่งมันไปจากคุณได้ บางการลงทุนอาจทำให้ขาดทุนหรือบางครั้งเงินดอลลาร์ที่ถืออยู่ก็จะมีมูลค่าน้อยลง ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าคุณมีพรสวรรค์ในตัวเอง และคุณได้ใช้ความสามารถของคุณอย่างเต็มที่ คุณก็จะสามารถได้รับทรัพย์สินมหาศาลที่สามารถตอบแทนกลับมาได้เป็นสิบเท่า”
มาดูกันว่า Warren Buffett แนะนำหรือมีแนวคิดการลงทุนในตัวเองอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้พิจารณาว่า ‘ควรลงทุน’ หรือไม่
และนี่คือ 5 การลงทุนในตัวเองโดย Warren Buffett
ลงทุนในความรู้
Buffett ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จในโลก เครื่องมือหนึ่งที่สำคัญอย่างมากคือ ‘ความรู้’
Buffett ใช้เวลาส่วนมากในการหาความรู้และคิด ทั้งอ่านหนังสือในระหว่างเดินทาง หรือฟัง Ted Talks ในระหว่างการทำอาหารเย็น เขาเคยถูกถามว่าทำอย่างไรถึงจะฉลาดขึ้น Buffett ชูกองหนังสือขึ้นและบอกว่า “อ่านหนังสืออย่างนี้ 500 หน้าต่อวัน นี่คือวิธีสร้างความรู้ และมันเหมือนกับดอกเบี้ยทบต้น”
หนทางแสวงหาความรู้ของ Buffett ไม่ได้ง่ายเลย แต่แน่นอนว่ามันคุ้มค่า
ลงทุนในสุขภาพ
Buffett เคยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพไว้ว่า “คุณมีเพียงหนึ่งใจและหนึ่งกาย และมันจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ตอนนี้มันเหมือนง่ายมากที่จะใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง แต่ถ้าคุณไม่ดูแลจิตใจและร่างกายนั้น มันจะพังพินาศในอีก 40 ปีข้างหน้า”
แต่อันที่จริงแล้ว Buffett กลับไม่ใช่คนที่ปฏิบัติตามคำแนะนำข้อนี้ได้ดีนัก เพราะเขามีพฤติกรรมการกินที่ตรงกันข้ามกับการทำให้สุขภาพดีโดยสิ้นเชิง โดยดื่มโค้กประมาณ 5 กระป๋องต่อวัน ชอบกินช็อกโกแลต See’s Candies และไม่ยั้งมือในการเทเกลือลงจานอาหารของตัวเอง
แต่ก็นั่นหล่ะ เราทุกคนรู้ดีว่าการมีสุขภาพที่ดีเป็นอีกหนึ่งความโชคดี เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า ‘การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ’
ลงทุนในทักษะการสื่อสาร
Buffett บอกว่า “หากคุณไม่สามารถสื่อสารได้ มันก็เหมือนกับขยิบตาให้สาวในความมืดนั่นแหล่ะ ผลลัพธ์คือมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณอาจมีพลังสมองทั้งหมดในโลกนี้ แต่คุณก็ต้องสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ด้วย”
เขายังกล่าวเสริมว่า การพัฒนาทักษะการสื่อสารสามารถ ‘เพิ่มมูลค่าให้คุณได้มากขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์’
เราทุกคนต่างรู้ดีว่าทักษะการสื่อสารเป็นทักษะที่สำคัญมาก มีงานวิจัยหลายงานยืนยันเรื่องนี้ เช่น งานวิจัยเรื่อง Why Communication is Important: A Rationale for the Centrality of the Study of Communication. ในปี 1988 โดย D.B. Curtis ซึ่งสำรวจผู้เข้าร่วม 1,000 คน กล่าวว่าทักษะที่มีค่าที่สุดใน “ตลาดงานร่วมสมัย” คือทักษะในการสื่อสาร ซึ่งนั่นหมายถึงหากเรามีทักษะในการสื่อสาร มันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและทำเงินให้เราอย่างแน่นอน
ลงทุนในความสัมพันธ์
Buffett แนะนำบ่อยครั้งว่าความสำเร็จส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับคนที่อยู่รอบตัว เขาบอกว่า “คุณจะหันเหไปในทิศทางเดียวกับคนที่อยู่รายล้อมรอบตัวคุณ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะเลือกคบคนที่ดีกว่าคุณ”
ขอยกอีกหนึ่งตัวอย่างมาคือคำกล่าวของจิม รอห์น (Jim Rohn) นักพูดสร้างแรงบันดาลใจที่เคยกล่าวไว้ว่า “คุณคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ” นั่นหมายถึงคนที่อยู่รอบๆ ตัวเราจะเป็นผู้กำหนดตัวตนที่เราจะเป็น จะมีบทสนทนาที่ดึงดูดความสนใจของเรา ส่งผลต่อทัศนคติและพฤติกรรม จนกระทั่งเรามีพฤติกรรมเหมือนอย่างที่คนรอบๆ ตัวเป็นอยู่
สำหรับตัวอย่างในข้อคิดนี้ของ Buffett ก็คงเป็นคนที่ Buffett เลือกคบอย่าง ชาร์ลี มังเกอร์ (Charlie Munger) ที่เป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน และหุ้นส่วนที่ Berkshire Hathaway ที่เขาทั้งสองได้ร่วมแบ่งปันความคิดและความเป็นตัวตนซึ่งกันและกันมาเป็นเวลาหลายปี
ลงทุนในทักษะความเป็นผู้นำ
หนึ่งในหน้าที่ของผู้นำคือการมองคนที่จะมาร่วมทีม Buffett ได้แชร์มุมมองในการมองหาคนเข้ามาร่วมทีมไว้ว่า
“เมื่อเราจ้างคนมาทำงานเรามองหา 3 อย่าง คือ ความฉลาด ความคิดริเริ่มหรือความกระตือรือร้น และความซื่อสัตย์ ถ้าพวกเขาไม่มีคุณสมบัติอย่างหลังสุด สองอย่างแรกก็ไม่มีความหมาย เพราะถ้าคุณกำลังจะจ้างคนที่ไม่มีความซื่อสัตย์ นั่นก็แปลว่าคุณปล่อยให้พวกเขาขี้เกียจและทึ่มด้วย”
นั่นเพราะความซื่อสัตย์เป็นส่วนสำคัญในทุกส่วนของธุรกิจเลย และมันจะช่วยเพิ่มมูลค่าของธุรกิจและสร้างกำไรได้มากขึ้นด้วย
และแน่นอนว่าถ้าหาคนมาร่วมทีมได้อย่างถูกต้อง มันจะเป็นเรื่องดีต่อธุรกิจอย่างแน่นอน ดั่งที่ Buffett เคยกล่าวเพิ่มเติมไว้ว่า “จ้างถูกคน จัดการน้อยลง” นอกจากนี้ยังต้องปล่อยให้ทีมทำงานอย่างอิสระ เข้าไปยุ่งเกี่ยวน้อยลงเพื่อให้พวกเขาสร้างสรรค์งานได้อย่างเต็มที่
นี่คือแนวคิดการลงทุนที่ดีที่สุดที่ได้เรียนรู้ผ่าน Warren Buffett มันอาจจะไม่สามารถสร้างเม็ดเงินมหาศาลได้ในเร็ววัน แต่แน่นอนว่าใครหลายคนคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ‘การลงทุนในตัวเอง’ เป็นการลงทุนที่ดีที่สุดจริงๆ
References: Businessinsider, INC(1), INC(2), Thegentlemansjournal, Lifehack