KEY TAKEAWAYS
- 12 ทักษะพื้นฐาน ที่จะสร้างรากฐานให้ startup ของคุณมั่นคง
- Idea is cheap, execution is everything หรือ “ไอเดียน่ะมันราคาถูก การลงมือทำต่างหากคือทุกสิ่ง”
- Steve Blank ผู้ประกอบการชาวอเมริกันผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งผู้ประกอบการยุคใหม่ บอกว่าทีม startup ต้องประกอบด้วยสมาชิกที่มีความหลากหลาย ได้แก่ ผู้มีวิสัยทัศน์, แฮกเกอร์, นักธุรกิจ และนักออกแบบ
- Havard Business Review กล่าวว่า “ความอยากรู้อยากเห็นมีความสำคัญพอๆ กับความฉลาด และมันสามารถพัฒนาได้”
- แบบสำรวจจาก CBinsights พบว่าปัจจัยอันดับแรกซึ่งสูงถึง 38% ที่ทำให้ startup ล้มเหลวก็คือเงินทุนหมด และไม่สามารถระดมทุนใหม่ได้
นี่นับว่าเป็นยุคของการก่อเกิดผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เราจะเห็นบริษัท startup ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ใครสักคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็อาจมีไอเดียดีๆ อยู่ในหัวบ้างแล้ว แต่อย่าเพิ่งบุ่มบ่ามไป ไอเดียดีๆ เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้บริษัทประสบความสำเร็จได้ แล้วทักษะอะไรบ้างล่ะที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้น startup สักบริษัท
คนทำธุรกิจจำนวนมากได้ร่วมแชร์ประสบการณ์การรัน startup เรารวบรวมมาให้แล้ว มาเช็คลิสต์กันว่าทักษะไหนที่เรามีแล้วบ้าง ทักษะไหนที่ยังขาดไป และนี่คือ 12 ทักษะพื้นฐาน ที่จะสร้างรากฐานให้ startup ของคุณมั่นคง
Proactive | ทักษะการทำงานเชิงรุก
การทำงานเชิงรุก หรือการโฟกัสไปที่การลงมือทำทักษะนี้นี่เองที่จะทำให้ไอเดียกลายเป็นตัวเป็นตน จากความฝันกลายเป็นความจริงขึ้นมา ผู้ประกอบการต้องพิจารณาวิสัยทัศน์ของตัวเองเสมอว่ามันมีความชัดเจนมากพอหรือเปล่า ทั้งทิศทางและการดำเนินงาน
ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า startup ของเราเกี่ยวกับอะไร จะส่งต่อไปยังผู้บริโภคอย่างไร ปัจจุบันมีอะไรบ้าง (ไอเดีย ทีมผู้ก่อตั้ง) และต้องการอะไรเพิ่ม (ทุน พนักงาน ทักษะการจัดการ)
ทักษะการทำงานเชิงรุกยังอาจหมายรวมไปถึงการสามารถยอมรับกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงเรียนรู้และเติบโตจากความผิดพลาดนั้น นักวิจัยไมเคิล เฟรส (Michael Frese) และเฮอร์แมน แบรนด์สแตทเตอร์ (Herman Brandstätter) นิยามว่ามันคือแนวทางเชิงรุกของความผิดพลาด (An active approach towards making mistakes) ซึ่งก็คือความสามารถในการรับรู้ข้อผิดพลาดและใช้เป็นบทเรียน ทักษะนี้จะทำให้คุณเห็นช่องโหว่ในธุรกิจและแก้ไขมันได้
เหมือนประโยคที่เราน่าจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ ในแวดวงของ startup นั้นก็คือ Idea is cheap, execution is everything หรือ “ไอเดียน่ะมันราคาถูก การลงมือทำต่างหากคือทุกสิ่ง”
Build a Strong Team | ทักษะในการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ
เบื้องหลังของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคือทีมที่มีประสิทธิภาพ ในปี 2011 สตีฟ แบลงค์ (Steve Blank) ผู้ประกอบการชาวอเมริกันผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งผู้ประกอบการยุคใหม่ (Modern Entrepreneurship) เขาได้เสนอโมเดลการสร้างทีมของบริษัท startup ไว้ เขาบอกว่าทีม startup ต้องประกอบด้วยสมาชิกผู้ก่อตั้งที่มีความหลากหลาย โดยในทีมต้องมี ผู้มีวิสัยทัศน์, แฮกเกอร์, นักธุรกิจ และนักออกแบบ
อธิบายรายละเอียดของแต่ละคนเพิ่มเติมก็คือ
- ผู้มีวิสัยทัศน์ : คือคนที่มีความฝัน มีความสามารถในการรวมกลุ่มคนเข้าด้วยกัน ใช้วิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาและตั้งเป้าหมายระยะยาว
- แฮกเกอร์ : สื่อถึงคนที่มีความสามารถทางเทคนิค สำหรับสร้างสินค้าหรือผลิตภัณฑ์
- นักธุรกิจ : คือคนที่สามารถจัดการทุกอย่างได้ ตั้งแต่การดำเนินงานของบริษัทไปจนถึงกระบวนการขาย
- นักออกแบบ : มักจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน UI/UX ผู้ที่สามารถใช้เทคโนโลยีเชื่อมช่องว่างระหว่างกลุ่มเป้าหมายกับตัวบริษัทเข้าด้วยกัน
ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนล้วนมีความสามารถแตกต่างกัน ดังนั้นในแต่ละทีมจึงต้องมีคนที่หลากหลาย บริษัทใหญ่ๆ ของโลกอย่าง Apple, Canva, Netflix ล้วนแต่มีผู้ร่วมก่อตั้งมากกว่า 1 คน ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งแต่ละคนก็จะมีจุดเด่นเฉพาะตัวของตัวเอง
Agile & Resilience | ทักษะความคล่องตัวและความยืดหยุ่น
ความคล่องตัวและความยืดหยุ่นหมายถึงการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ จริงอยู่ที่หลายๆ ธุรกิจมีแผนธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้
เมื่อธุรกิจเจอสถานการณ์ในเชิงลบ ต้องมีสติจดจ่ออยู่กับความท้าทายที่เกิดขึ้นตรงหน้าและพยายามที่จะมองหาโอกาสในแต่ละสถานการณ์ รวมถึงเมื่อสถานการณ์ภายนอกเปลี่ยนแปลง ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนทิศทางหรือแผนได้ทันทีเมื่อพบทางที่เหมาะสมกว่าของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
Great Leader | ทักษะในการเป็นผู้นำที่ดี
ไม่เพียงแต่ว่าคุณสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้ดีหรือไม่ แต่มันยังรวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่คุณทำงานด้วย ซึ่งคุณจะสร้างมันขึ้นมาได้ผ่านการสื่อสาร การร่วมงาน และมันอาจจะต้องอาศัยเวลาอยู่สักหน่อย คุณต้องถามตัวเองบ่อยๆ ว่า ทีมของคุณมั่นใจในวิสัยทัศน์ของบริษัทหรือไม่ คุณสร้างความไว้วางใจต่อทีมได้หรือไม่และทำอย่างไร คุณอาจจะต้องจัดสรรเวลากับทีมแต่ละคนเพื่อ Feedback กันและกันอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละคน
นอกจากการสื่อสารที่ชัดเจนแล้ว การสร้างคุณค่าให้ทีมรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ากับการดำเนินงานของบริษัทก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้นำด้วยเช่นกัน
มาร์ค คราสเนอร์ (Mark Krassner) ผู้ก่อตั้ง startup ชื่อ Expectful ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ จนกระทั่งหลังคลอด ได้แชร์มุมมองเกี่ยวกับทักษะความเป็นผู้นำว่า “ตอนที่ผมเริ่มธุรกิจ ผมคิดว่าการเป็นผู้นำคือการเป็นคนดีและช่วยเหลือคนอื่น สิ่งสำคัญคือต้องมีความกรุณาและมีความเห็นอกเห็นใจ แต่ผมก็ได้เรียนรู้ทีหลังว่าผู้นำต้องท้าทายและให้กำลังใจคนในทีม เพื่อร่วมกันทำเป้าหมายที่อยู่นอกเหนือคอมฟอร์ทโซนของพวกเขา การเปลี่ยนมุมมองนี้ทำให้ธุรกิจของผมเติบโตได้เร็วขึ้น”
Communication | ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
ในฐานะผู้ประกอบการ คุณจะต้องสื่อสารกับหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสื่อสารกับทีมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการจูงใจพวกเขาและสร้างเป้าหมายร่วมกัน สื่อสารกับลูกค้าเพื่อการร่วมมือทางธุรกิจ และผู้มีส่วนร่วมอีกหลายส่วน การสื่อสารที่ดีจะทำให้สารที่ต้องการนำเสนอมีความชัดเจนและรัดกุม
ทักษะนี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การเป็นส่งสารเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการฟังที่ดีและการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์อีกด้วย
Risk Assessment | ทักษะในการประเมินและจัดการความเสี่ยง
ถือเป็นเรื่องปกติที่บริษัท startup จะยังคงมีพื้นฐานที่ไม่ดีนัก และปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย ลูกค้า สินค้า กระแสเงินสด เงินทุน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อบริษัทได้จนทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสถานะของบริษัท ผู้ประกอบการที่ดีต้องสามารถประเมินความรุนแรงของความเสี่ยง และสามารถจัดการความเสี่ยงได้ ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถจัดการความเสี่ยงต่างๆ ได้ก็อาจจะทำให้บริษัทตกที่นั่งลำบากและอาจทำให้เกิดความล้มเหลวได้ในที่สุด
แอนดริว โทมัส (Andrew Thomas) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทผลิตกริ่งประตูบ้าน Skybell กล่าวว่า “ความสามารถในการประเมินความเสี่ยงเป็นทักษะที่ผมเรียนรู้มาโดยตลอด แต่ผมหวังว่าผมควรจะได้เรียนรู้ก่อนหน้านี้ เพราะมันมีบางโอกาสที่ผมไม่ได้คว้าไว้เพราะประเมินความเสี่ยงไว้สูงเกินไป ตอนผมยังเด็กผมอาจสามารถคว้าโอกาสดีๆ ได้สองสามครั้ง ตอนนี้ผมมองกลับไปด้วยมุมมองที่ว่าทำไมตอนนั้นไม่ทำนะ ผมได้แต่หวังว่าตัวเองจะย้อนเวลากลับไปคว้ามันได้”
Have a curious | ความอยากรู้อยากเห็น
รายงานของ Havard Business Review ได้พูดถึงความอยากรู้อยากเห็นไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า “ความอยากรู้อยากเห็นมีความสำคัญพอๆ กับความฉลาด และมันสามารถพัฒนาได้”
ความอยากรู้อยากเห็นจะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของ startup ได้กว้างขึ้น และมองในมุมมองที่แตกต่าง จนสามารถสร้างคำถามซึ่งจะนำไปสู่การหาคำตอบและแก้ไขให้ดีขึ้นได้ เราจะสงสัยว่าลูกค้าต้องการสินค้าแบบไหน? ลูกค้ารู้สึกอย่างไร? คู่แข่งกำลังคิดอะไรอยู่? อะไรที่จะทำให้เราสามารถแข่งกับคู่แข่งได้อย่างสูสี? เป็นต้น
เราสามารถฝึกวิธีคิดให้เป็นคนช่างสงสัยได้โดยการลองฝึกตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ เหมือนอย่างทฤษฎี First Principle Thinking ที่มีวิธีคิดในการตั้งคำถามย้อนกลับไปเรื่อยๆ จนพบต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหา
Have a Creative Mild | ความคิดสร้างสรรค์
ถ้า startup ของคุณแข่งขันอยู่ในตลาดเดียวกับบริษัทที่ดำเนินการมานาน startup มักจะได้รับความน่าเชื่อถือน้อยกว่าเพราะยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ด้วยเวลามากพอ ดังนั้น startup จึงต้องพยายามสร้างความแตกต่างจากที่คนอื่นๆ เคยทำมาให้ได้ ถ้าสินค้าของเราเหมือนกับสินค้าหรือบริการอื่นๆ ที่มีมาก่อนแล้ว นั่นเท่ากับว่าก็ไม่มีแรงจูงใจใดๆ ให้ลูกค้าเลือกสินค้าหรือบริการของเรา
นี่คือจุดที่ความคิดสร้างสรรค์เริ่มถูกจุดขึ้นมา และความคิดสร้างสรรค์นี้เองที่ทำให้สินค้าของเราโดดเด่น
Financial Skill | ทักษะการบริหารจัดการเงิน
CBinsights ได้สำรวจบริษัท startup 111 บริษัทเพื่อหาสาเหตุว่าทำไม startup จึงล้มเหลว และปัจจัยอันดับแรกซึ่งสูงถึง 38% ที่ทำให้ startup ล้มเหลวก็คือเงินทุนหมด และไม่สามารถระดมทุนใหม่ได้ ดังนั้นการบริหารจัดการเงินทุนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก็ได้ แต่ควรทำความคุ้นเคยกับพื้นฐานทางการเงินไว้บ้างเพราะจะทำให้เข้าใจงบประมาณและสถานะทางการเงินของบริษัท และจะทำให้เห็นภาพรวมของธุรกิจได้ดีมากขึ้น
Time Management | การบริหารจัดการเวลา
ในการเริ่มธุรกิจใหม่หรือ startup แทบทุกเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่จะต้องสร้างขึ้นมาใหม่หมด ดังนั้นมันจึงเหมือนมีรายการสิ่งที่ต้องทำผุดขึ้นมาไม่สิ้นสุด ผู้ประกอบการบางคนอาจจะอยากแยกสักหลายๆ ร่างไปทำงานหลายอย่าง แต่แน่นอนว่าเราทำไม่ได้หรอก แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือการบริหารเวลา
การสร้างกำหนดการต่างๆ และการกำหนดไทม์ไลน์ต่างๆ รวมถึงการรู้ว่าเรื่องใดสำคัญ จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ยิ่งสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ามากเท่าไหร่ โอกาสประสบความสำเร็จก็ยิ่งมากเท่านั้น
Technology Skill | ทักษะด้านเทคโนโลยี
ถ้าหากคุณก่อตั้งธุรกิจในช่วง 20 ปีที่แล้วทักษะด้านเทคโนโลยีอาจจะไม่จำเป็น แล้วทักษะด้านเทคโนโลยีคืออะไรล่ะ แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นต้องเขียนโค้ดเป็น แต่มันหมายถึงคุณต้องเข้าใจเทคโนโลยี และรู้วิธีการในการนำมันมาปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โปรแกรมในการบริหารจัดการต่างๆ เครื่องมือในการวัดผลทางการตลาดออนไลน์ (ซึ่งทุกวันนี้เป็นเรื่องปกติแล้วล่ะที่ผู้ประกอบการต้องทำออนไลน์เป็น) หรือเทคโนโลยีใดๆ ก็ตามที่ทำให้คุณและทีมของคุณทำงานได้ง่ายขึ้น และแน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด แต่เราต้องเลือกอันที่เหมาะกับธุรกิจเรามากที่สุด
Have a Positive Attitude | มีมุมมองที่เป็นบวก แม้หลายๆ อย่างจะไม่เป็นไปตามที่คิด
ทุกธุรกิจมีปัญหาโดยเฉพาะกับ startup เพราะทุกอย่างคือการเริ่มต้นใหม่ คุณอาจจะวางแผนไว้อย่างดี แต่มันก็คงมีหลายครั้งที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงอาจมีสถานการณ์ยากๆ ที่จะต้องตัดสินใจ
คุณควรมีการจัดการอารมณ์เพื่อรับมือกับเรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามที่คิดเหล่านี้ เพราะหากไม่มีการจัดการอารมณ์ที่ดี มันก็จะนำไปสู่การหมดไฟและการหมดแพสชั่นได้ และแน่นอนว่าเมื่อหมดแพสชั่นต่องานแล้ว ธุรกิจก็ดำเนินต่อไปไม่ได้
12 ทักษะเหล่านี้คือเรื่องพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างบริษัท startup ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณเริ่มรันธุรกิจแล้วมันต้องมีทักษะเฉพาะด้านตามรูปแบบสินค้าที่มีะความเฉพาะตัวและแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตามทักษะพื้นฐานเหล่านี้ก็ยังคงมีความจำเป็นกับผู้ประกอบการทุกคนไม่ว่าสินค้าหรือบริการของธุรกิจนั้นจะคืออะไร
References: HBR, Businesscollective, Wordtracker, Startupnation, Futurelearn, Hult, Cbinsights