KEY TAKEAWAYS
- การล่มสลายของ FTX ส่งผลกระทบและทำให้นักลงทุนเปลี่ยนมุมมองต่อวงการคริปโต เช่นเดียวกับ Miles Deutscher
- ไม่มีโปรเจกต์ไหนใหญ่เกินกว่าจะล้ม ตัวอย่างเช่น LUNA, และล่าสุด FTX
- ให้ปฏิบัติตัวต่อ FUD ว่าเป็นความจริง จากนั้นให้หาข้อมูลเพิ่มเติมค่อยตัดสินใจ รวมถึงหากมี FUD เกี่ยวกับ exchange ควรถอนเงินออกก่อน ค่อยฝากใหม่ อย่าเสี่ยงที่จะเสียเงินทุน
- ถ้าอยากลดความเสี่ยงจากกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (Cex) ให้ลองเทรดบนบนกระดานเทรดแบบไร้ศูนย์ (Dex) ถ้าจะพิจารณาความโปร่งใสของกระดานเทรดต่างๆ CEX ให้พิจารณา proof of reserves ส่วน DeFi ให้พิจารณา proof of treasury reserves
ช่วงที่เกิดข่าวลบๆ เกี่ยวกับกระดานเทรด FTX ยังมีนักลงทุนบางส่วนเชื่อมั่นใน FTX อยู่ เพราะมันเป็นกระดานเทรดที่ใหญ่มากและมีความน่าเชื่อถือมากเช่นกัน ใครจะคิดว่ามันจะล้ม แต่ก็อย่างที่เรารู้กันทั่วแล้วนั่นล่ะ ว่าปัจจุบัน FTX ก็ยื่นล้มละลายไปแล้วเรียบร้อย
การล้มของยักษ์ใหญ่ครั้งนี้ส่งผลกระทบไปทั่ว รวมถึงเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนด้วย อย่างเช่น ไมล์ส ดัชเชอร์ (Miles Deutscher) (แอคเคาท์ทวิต @milesdeutscher) นักวิเคราะห์คริปโตที่มีผู้ติดตามในทวิตเตอร์กว่า 2.53 แสนคน ที่การล้มของ FTX ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองต่อคริปโตไปตลอดกาล และได้ออกมาแชร์ 10 บทเรียนที่เขาได้รับจากการล่มสลายครั้งนี้
เขาได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้บ้าง ไปดูกัน
อย่าถือเหรียญแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
คือ ให้พิจารณาดูเหรียญที่ตัวเองถือไว้ในพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ ตั้งคำถามว่าทำไมถึงถือเหรียญนี้ และถ้าพิจารณาเจอเหรียญที่ดีแล้วแต่ยังไม่ได้ถือก็ซื้อซะ
ไม่มีอะไรใหญ่เกินกว่าจะล้ม
อย่างที่เห็นการล่มสลายในปีนี้ ทั้ง LUNA เมื่อกลางปี และล่าสุด FTX ทั้งสองต่างก็ใหญ่มากและต่างก็เป็นผู้นำในสายของตัวเอง UST เคยเป็น 1 ใน 3 Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุด FTX ก็เคยเป็นอันดับ 2 ของกระดานเทรดคริปโตของโลก แต่มันล้มไปแล้วทั้งสอง
ทั้งนี้เขาแนะนำเพิ่มเติมว่าข่าวคริปโตต่างๆ ใน Twitter น่ะรุนแรงมาก อย่าให้ความเชื่อมั่นสุดโต่งของคนอื่นๆ ในวงการมาส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตัวเอง
หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
ในวงการคริปโตน่ะ ที่ไหนมีควัน ที่นั่นย่อมมีไฟ ดังนั้นหากมีข่าวลือเกี่ยวกับ Exchange ให้ถอนเงินออกก่อน กันไว้ก่อน ค่อยฝากเงินกลับเข้าไปใหม่ก็ได้ อย่าเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
ให้ปฏิบัติตัวต่อ FUD (ข่าวลือด้านลบ) ว่าเป็นความจริงไว้ก่อน แต่มันก็อาจเป็นเพียงข่าวลือได้ ดังนั้นให้หาข้อมูลเพิ่มเติม FUD ก็เป็นแค่ FUD นั่นแหล่ะ จนกว่ามันจะเกิดขึ้นจริง
Not Your Keys, Not Your Coins
ลองเก็บคริปโตของคุณไว้ใน Ledger/Trezor บ้าง มันอาจจะทำให้คุณสบายใจและหลับสบายกว่าเดิม
มันก็ดีแหล่ะที่เทรดในกระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchanges เช่น Binance, FTX, Bitkub) แต่รีบเทรดแล้วรีบย้ายกำไรของคุณออกไปเถอะ
ลองเริ่มเทรดบนกระดานเทรดคริปโตแบบไร้ศูนย์
กระดานเทรดคริปโตแบบไร้ศูนย์ หรือ Decentralized Exchanges เช่น Uniswap, dYdX
ถ้าหากอยากหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจาก CEX ก็ให้ลองเทรดบน DEX ดู มีหลาย DEX ที่ดีๆ เช่น $GMX, $GNS, $APEX เป็นต้น
พิจารณาเหตุการณ์ที่อาจเกิดต่อเนื่อง
เมื่อใดก็ตามที่เกิด Black Swan (เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิด เช่น การล่มสลายของ LUNA, FTX, เหตุการณ์ 9/11 ฯลฯ) ให้คิดเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนั้น เช่น a) โทเค็นที่น่าจะได้รับผลกระทบ (อย่างเหตุการณ์ FTX คือ Solana (SOL)) b) อุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม
เหตุการณ์เช่นนี้เป็นตัวกำหนดภาพรวมของวงการคริปโต ดังนั้นต้องคิดอย่างมีวิจารณญาณ และปราศจากอคติ
นอกจากนี้ ทุกๆ การล่มสลายมันยังอาจเกิดผลบวกต่อยอดไปอีกได้ เช่น หลังจากล่มสลายของ FTX ตอนนี้ DeFi ก็กำลังบูมมาก ให้พิจารณาดูว่าเงินทุนจะหมุนไปในทิศทางไหน
ตื่นตัวเสมอ และทำอะไรต่างๆ ให้รวดเร็ว
เมื่อ FTX เริ่มล่มสลาย มันถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่ในการเปิด Short เหรียญ FTT ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์เหมือนครั้งนี้อีก อย่ามัวแต่นั่งช็อก ให้รีบหาข้อมูลและรีบสร้างโอกาส
มองหาข้อบกพร่อง
บ่อยครั้งที่เรามักจะมองบวกต่อเหตุการณ์ เช่น ‘FTX เป็นกระดานเทรดที่ใหญ่มากเลยนะ มันไม่น่าล่มสลายหรอก หรือแซม แบงค์แมน ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) ฉลาดมากเลยนะ เขาจะล้มเหลวได้อย่างไร’
อย่างที่เราเห็นกันแล้วนั่นแหล่ะ ให้ถามคำถามยากๆ ก่อน มองหาข้อบกพร่อง เราอาจจะเห็นโอกาสจากข้อบกพร่องเหล่านั้น
มองหาความโปร่งใส
หากโปรเจกต์ไหนไม่แสดงงบดุลที่มีความชัดเจน ให้ตั้งธงแดงต่อโปรเจกต์นั้นไว้ก่อนเลย
กับ CEX ให้พิจารณา proof of reserves ส่วน DeFi ให้พิจารณา proof of treasury reserves
เก็บเงินสดไว้เสมอ
พอเกิดเหตุการณ์แย่ๆ อย่าออกจากตลาดโดยสิ้นเชิง เช่นเดียวกับที่อย่าเอาเงินทั้งหมดมาลงทุน ให้แบ่งสันปันส่วนเงินสดไว้บ้าง เพื่อนำมาลงทุนในโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามา
ทั้งนี้ Miles กล่าวเสริมว่าบทเรียนเหล่านี้เขาเคยบอกมาบ้างแล้ว แต่พอเกิดเหตุการณ์แย่ๆ อย่าง FTX ล่มสลาย เขาก็เลยนำกลับมาเล่าใหม่เพื่อเป็นบทเรียนให้นักลงทุนทุกคน
Reference: Twitter