KEY TAKEAWAYS
- ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดว่าแนวโน้ม supply พลังงานจะลดลง
- องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC+ เตรียมลดปริมาณการผลิตลงในเดือนนี้ ส่วนเดือนธันวาคม EU จะคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซีย
- ราคาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (West Texas Intermediate: WTI) เพิ่มขึ้นสู่ 89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากร่วงลง 2% เมื่อวานนี้
ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดว่าแนวโน้ม supply พลังงานจะลดลง ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (West Texas Intermediate: WTI) เพิ่มขึ้น 3% ราคาอยู่ที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC+ เตรียมลดปริมาณการผลิตลงในเดือนนี้ ซึ่งหลังจากนี้สหภาพยุโรป (European Union: EU) จะคว่ำบาตรน้ำมันดิบของรัสเซียในเดือนธันวาคม รวมไปถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำมันดีเซลทั่วโลกก็ส่งผลต่อปัญหา supply ด้วย
ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สอง แต่ตลาดฟิวเจอร์สสูญเสียมูลค่าไปเกือบหนึ่งในสามตั้งแต่เดือนมิถุนายน เนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อ demand ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวในเซสชั่นล่าสุดพร้อมกับแนวโน้มตลาดที่กว้างขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลล่าร์ ปริมาณการซื้อขายที่ไม่ค่อยสูงนักก็ส่งผลกระทบเช่นกัน
คริสติน ลาการ์ด (Christine Lagarde) ประธานธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) กล่าวว่าอาจเกิดภาวะถดถอยเล็กน้อย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และธนาคารกลางแห่งอังกฤษปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันที่จะขายไปยังทวีปเอเชียในเดือนธันวาคมลง ชี้ให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้ม demand ลดลง
ข้อมูลการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันจาก Bloomberg ระบุว่าในเดือนตุลาคม ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้บรรจุน้ำมันเพื่อส่งไปยังจีนเกือบ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรตกลงที่จะกำหนดขีดจำกัดด้านราคาน้ำมันดิบของรัสเซีย แต่ยังไม่ระบุว่าจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งกลไกเศรษฐกิจนี้ออกแบบมาเพื่อลดรายรับของมอสโกหลังจากที่มีการรุกรานยูเครน
Reference: Finance.yahoo