fbpx

คู่มือเรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) สำหรับมือใหม่

HomeEDUCATIONคู่มือเรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) สำหรับมือใหม่

ช่องทางการติดตาม

จินตนาการว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งการลงทุน เป็นโลกที่เต็มไปด้วยหุ้นอายุหลายศตวรรษและสกุลเงินดิจิทัลอายุน้อยที่ล้ำสมัย และมันไม่มีสูตรลับสำหรับความสำเร็จ หากสูตรดังกล่าวมีอยู่จริง มันก็คงจะอยู่ในห้องใต้ดินของผู้บงการแห่ง Wall Street

สำหรับพวกเรานักลงทุน เรามีเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลายอยู่ที่ปลายนิ้วสัมผัส เทคนิคเหล่านี้แบ่งออกเป็นสองเทคนิคหลักคือ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis : FA) และการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis :TA) วันนี้เราจะมาเรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานกัน 

ไขปริศนาการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

โดยพื้นฐานแล้ว การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นเทคนิคที่นักลงทุนใช้ในการกำหนดมูลค่าโดยธรรมชาติของสินทรัพย์หรือบริษัท พวกเขาตรวจสอบปัจจัยทั้งภายในและภายนอกอย่างระมัดระวังเพื่อตัดสินใจว่าสินทรัพย์หรือธุรกิจมีราคาสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ข้อมูลที่รวบรวมได้จากวิธีนี้สามารถช่วยในการกำหนดกลยุทธ์ที่มีแนวโน้มที่จะได้รับผลตอบแทนสูง

สมมุติว่าคุณสนใจบริษัทใดบริษัทหนึ่ง คุณจะเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์แง่มุมต่างๆ เช่น รายได้ของบริษัท, งบดุล, งบการเงิน และกระแสเงินสด เพื่อให้เข้าใจถึงสถานะทางการเงินของบริษัท จากนั้น คุณจะต้องออกมาดูภาพที่กว้างขึ้นด้วยการตรวจสอบตลาดหรืออุตสาหกรรมที่ดำเนินการอยู่ คำถามที่คุณอาจจะถาม ได้แก่ ใครคือคู่แข่ง, ลูกค้าเป้าหมาย และธุรกิจมันเติบโตหรือไม่? คุณสามารถขยายเลนส์ให้กว้างขึ้นเพื่อพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายของประเทศ, อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ วิธีนี้เรียกว่าวิธีการจากล่างขึ้นบน 

อีกทางหนึ่ง คุณอาจใช้วิธีจากบนลงล่าง โดยเริ่มจากมุมมองทางเศรษฐกิจแบบกว้างๆ แล้วจึงค่อยมองภาพให้แคบลง

เป้าหมายหลักของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคือการได้มาซึ่งราคาสินทรัพย์ที่คาดการณ์ไว้จากข้อมูล และเปรียบเทียบมันกับราคาปัจจุบัน หากราคาที่คำนวณได้ของคุณสูงกว่าราคาตลาด บริษัทอาจถูกประเมินมูลค่าต่ำเกินไป หากราคาที่คำนวณต่ำกว่าก็อาจหมายถึงบริษัทถูกประเมินมูลค่าสูงเกินไป ด้วยข้อมูลเหล่านี้ อาจช่วยให้คุณ สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าจะซื้อหรือขายหุ้นนั้นๆ 

Fundamental analysis (FA) vs. technical analysis (TA)

สำหรับมือใหม่ในโลกของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัล ฟอเร็กซ์ หรือตลาดหุ้น พวกเขามักจะไม่แน่ใจว่า พวกเขาควรเลือกใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหรือการวิเคราะห์ทางเทคนิคดี ทั้งสองสิ่งนี้เหมือนอยู่คนละขั้วกัน โดยแต่ละอันมีวิธีการและมีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการลงทุน

โดยสรุป นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชื่อว่าราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของมันเสมอไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยึดหลักการตัดสินใจลงทุนของพวกเขา ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต สามารถทำนายราคาในอนาคตได้ พวกเขามุ่งเน้นที่การอ่านกราฟ วิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน และสังเกตแนวโน้มของตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อระบุช่วงเวลาและจุดที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน

ผู้สนับสนุนทฤษฎีสมมุติฐานตลาดที่มีประสิทธิภาพ (Efficient Market Hypothesis​ : EMH) ให้เหตุผลว่าเป็นไปไม่ได้ที่นักลงทุนจะเอาชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว 

และพวกเขาเชื่อว่าตลาดการเงินนั้นได้สะท้อนข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสินทรัพย์ รวมถึงข้อมูลในอดีตออกมาแล้ว และถึงแม้ว่า การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะสมบูรณ์แบบแค่ไหน พวกมันก็ไม่สามารถเอาชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ความจริงก็คือไม่มีกลยุทธ์ใดที่เหนือกว่า ทั้งสองสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าในด้านต่างๆ ของการลงทุน บางคนอาจชอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค บางคนอาจจะชอบการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน หรือบางคนใช้ทั้งสองอย่างผสมกันเพื่อให้ได้มุมมองที่ครอบคลุม 

รู้จักเครื่องมือในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้ขึ้นอยู่เครื่องมืออย่างกราฟราคา, แท่งเทียน, MACD หรือ RSI แต่จะใช้ข้อมูลบางอย่างอย่างในการวิเคราะห์แทน เช่น

  1. กำไรต่อหุ้น (Earnings per Share : EPS) : EPS เป็นตัววัตรประสิทธิภาพในการทำกำไรของบริษัท โดยแสดงให้เห็นว่าหุ้น 1 หุ้น ให้ผลกำไรเท่าไหร่ คำนวณโดยใช้สูตรง่ายๆคือ : (รายได้สุทธิ – เงินปันผลที่ต้องการ) / จำนวนหุ้น ธุรกิจที่มี EPS สูงหรือกำลังเติบโตมักจะดึงดูดนักลงทุนมากกว่า
  1. อัตราส่วนราคาต่อกำไร (Price-to-Earnings : P/E) : อัตราส่วนนี้มีไว้ใช้ประเมินบริษัทโดยเปรียบเทียบราคาหุ้นกับกำไรต่อหุ้น อัตราส่วนที่สูอาจบ่งบอกว่าหุ้นมีราคาสูงเกินไป ในขณะที่อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าราคาหุ้นนั้นต่ำเกินไป จำเป็นต้องเปรียบเทียบอัตราส่วนนี้กับบริษัทอื่นที่ดำเนินธุรกิจคล้ายกันเพื่อการประเมินที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  2. อัตราส่วนราคาต่อบัญชี (Price-to-Book : P/B) : อัตราส่วนใช้บอกว่านักลงทุนให้ความสำคัญกับบริษัทอย่างไรเมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชี (สินทรัพย์หักด้วยหนี้สิน) อัตราส่วน P/B ที่สูงกว่า 1 อาจบอกเป็นนัยว่าตลาดกำลังประเมินมูลค่าธุรกิจนี้สูงเกินไป อาจเป็นเพราะประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่สำคัญที่ได้คาดการณ์ไว้ หากอัตราส่วนน้อยกว่า 1 ธุรกิจอาจถูกประเมินมูลค่าต่ำเกินไป
  3. อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อการเติบโต (Price/Earnings-to-Growth : PEG) : อัตราส่วน PEG นั้นขยายอัตราส่วน P/E โดยรวมอัตราการเติบโตเข้าไปด้วย โดยทั่วไปแล้ว อัตราส่วน PEG ที่น้อยกว่า 1 จะบ่งชี้ถึงบริษัทที่ประเมินมูลค่าต่ำเกินไป ในขณะที่อัตราส่วนที่สูงกว่าอาจหมายถึงการประเมินมูลค่าที่สูงเกินไป

โปรดจำไว้ว่า ตัวเลขพวกนี้ไม่ควรใช้แยกกัน แต่ควรใช้ร่วมกันเพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับศักยภาพของการลงทุน 

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในโลกคริปโต

สำหรับมือใหม่ที่เข้ามาลงทุนในคริปโตเป็นครั้งแรก จำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดต่างๆ ในโลกของสกุลเงินดิจิทัล เดี๋ยวเราจะมาสอนถึงวิธีการในวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของโลกคริปโตที่แตกต่างจากตลาดทางการเงินแบบอื่นกัน

  1. อัตราส่วนมูลค่าต่อธุรกรรมของเครือข่าย (Network Value-to-Transactions : NVT) : คิดว่าอัตราส่วน NVT เป็นเหมือน P/E ที่ใช้ในตลาดหุ้น คำนวณด้วยสูตร : มูลค่าเครือข่าย / ปริมาณธุรกรรมรายวัน โดยพื้นฐานแล้วมันพยายามที่จะบอกคุณว่าคุณได้รับผลตอบแทนเท่าไร

ตัวอย่างเช่น มี เหรียญ A และเหรียญ B ทั้งคู่มีมูลค่าตลาด 1,000,000 ดอลลาร์ แต่เหรียญ A มีปริมาณธุรกรรมรายวันอยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ปริมาณของเหรียญ B อยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์เท่านั้น อัตราส่วน NVT ของเหรียญ A คือ 20 และ NVT ของเหรียญ B คือ 100 โดยทั่วไปอัตราส่วนที่ต่ำจะบ่งบอกถึงเหรียญดังกล่าวมีมูลค่าที่ต่ำไป ดังนั้นจากตัวอย่าง เหรียญ A น่าลงทุนกว่าเหรียญ B

  1. ที่อยู่กระเป๋าที่มีการใช้งานอยู่ (Active Addresses) : Active Addresses  แสดงให้เห็นว่ามีผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มหรือโปรเจกต์มากเพียงใด ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความนิยมของโปรเจกต์นั้นๆ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะมันสามารถถูกสร้างขึ้นมาได้ง่ายๆ 
  1. จุดคุ้มทุนสำหรับการขุด (Price-to-Mining-Breakeven) : ตัวชี้วัดนี้ใช้สำหรับประเมินเหรียญแบบ Proof of Work จุดคุ้มทุนสำหรับการขุดจะพิจารณาต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขุด – โดยพื้นฐานแล้วคือค่าไฟฟ้าและบรรดาอุปกรณ์ต่างๆ 

สมมุติเหรียญ A และเหรียญ B อีกครั้ง แต่คราวนี้มีจุดคุ้มทุนที่ 10,000 ดอลลาร์ และราคาซื้อขายของเหรียญ A อยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์ และเหรียญ B อยู่ที่ 20,000 ดอลลาร์ อัตราส่วนของพวกมันจะเท่ากับ 0.5 และ 2 ตามลำดับ อัตราส่วนที่ต่ำกว่า 1 หมายความว่านักขุดกำลังขาดทุน ในขณะที่อัตราส่วนที่มากกว่า 1 บอกว่านักขุดกำลังกำไร

  1. Whitepaper, ทีม และ Roadmap : ในส่วนนี้คุณจะต้องทำตัวเหมือนเป็นนักสืบมองหาโปรเจกต์น้ำดี การอ่าน Whitepaper สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโปรเจกต์นั้นๆ ได้ ประวัติของทีมงานสามารถบอกใบ้ถึงศักยภาพในการดำเนินการตามสัญญาที่ให้ไว้ และการตรวจสอบ Roadmap จะช่วยให้คุณเห็นว่าโปรเจกต์มีความคืบหน้าตามแผนที่วางเอาไว้หรือไม่

ข้อดีและข้อเสียของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

เช่นเดียวกับทุกสิ่ง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี : เป็นวิธีการที่เข้มงวดในการเจาะลึกคุณภาพและธุรกิจหรือโปรเจกต์นั้นๆ  ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถหาได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ทุกคนสามารถทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่ และมันสามารถเป็นรากฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการประเมินมูลค่าสินทรัพย์

ข้อเสีย : แม้ว่าการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะทำได้ง่าย แต่การทำได้ดีนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง การพิจารณาข้อมูลและปัจจัยหลายด้านอาจใช้เวลานาน และอาจไม่เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้น นอกจากนี้ ในบางครั้ง อาจจะพลาดโอกาสดีๆ ที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคแสดงออกมา และโปรดจำไว้ว่าแม้ว่าสกุลเงินดิจิทัลจะดูมีมูลค่าต่ำ แต่ก็ไม่รับประกันว่ามันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นกลยุทธ์ที่ต้องใช้เวลา และนักลงทุนประสบความสำเร็จไว้วางใจ ช่วยให้นักลงทุนประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น สกุลเงินดิจิตอล และสินทรัพย์อื่นๆ ได้ การใช้ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค สามารถมีความเข้าใจอย่างรอบด้านเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการทำกำไร

แต่โปรดจำไว้ว่า ในโลกที่กำลังเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอาจไม่สร้างผลกำไรให้กับเราเสมอไป การวิเคราะห์ด้วยตัวเอง และมีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่มั่นคงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ 

Reference : Binance

Enter to Start Team
Enter to Start Teamhttps://entertostart.co
ทีมคนสร้างสื่อที่ตั้งใจจะสร้างพื้นที่แห่งการแบ่งปันข้อมูลในโลกธุรกิจ การลงทุน และคริปโต เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ ผ่านคอนเทนต์ที่ย่อยง่าย เข้าใจได้ไม่ยาก

เรื่องยอดนิยมวันนี้

เรื่องยอดนิยม 7 วัน

เรื่องยอดนิยมวันนี้ | POPPULAR TODAY

เรื่องยอดนิยม 7 วัน | POPPULAR IN 7 DAYS

วิเคราะห์ราคา Bitcoin เมื่อใกล้ 70,000 ดอลลาร์ จะรุ่งหรือร่วง?

Bitcoin ยังคงปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ ชึ้ให้เห็นว่าเทรดเดอร์ยังไม่เทขายทำกำไร แม้ราคาจะเข้าใกล้ 70,000 ดอลลาร์ ส่วนจำนวนวาฬ Bitcoin (ที่อยู่ที่ถือมากกว่า 1,000 Bitcoin) เพิ่มขึ้นเป็น 2,104 ราย ณ วันที่ 7 มีนาคม แสดงให้เห็นว่ากลุ่มวาฬยังเชื่อว่า Bitcoin จะยังคงขึ้นต่อ การที่ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้น เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับภาคคริปโต...

ก.ล.ต. เตือนประชาชนใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจทำธุรกรรม DeFi

ก.ล.ต. แห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับ DeFi เนื่องจากมีความเสี่ยง

Bitcoin ทะลุ 40,000 ดอลลาร์ ครั้งแรกในรอบ 19 เดือน หลายฝ่ายคาด แตะหลักแสนก่อนสิ้นปีหน้า

ราคา Bitcoin พุ่งทะลุ 40,000 ดอลลาร์ เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 19 เดือน ขณะที่ Matrixport คาดว่าราคา Bitcoin จะพุ่งแตะ 125,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2024 ข้อมูลจาก CoinGecko แสดงให้เห็นว่า ราคา Bitcoin พุ่งแตะระดับ 40,000...

นักลงทุนรายใหญ่ซื้อตราสารหนี้สูงสุดนับจากปี 2008 หลังจากที่ในปีนี้มีการเทขายครั้งใหญ่ในรอบ 32 ปี

เงินเฟ้อทำให้ปีนี้มีการเทขายตราสารหนี้สูงเป็นประวัติการณ์ แต่เมื่ออัตราผลตอบแทนเริ่มสูงขึ้น นักลงทุนก็กลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง

ไขข้อข้องใจ จ่ายเงิน 2 รอบ ช่วยให้พ้นหนี้ได้จริงไหม

KEY TAKEAWAYS นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ออกมาพูดถึงแนวคิดที่จะเปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากแต่เดิมจ่ายเดือนละครั้ง เป็นจ่ายเงิน 2 ครั้งต่อเดือน โดยแบ่งจ่ายทุกวันที่ 15 กับสิ้นเดือน การจ่ายเงิน 2 ครั้งต่อเดือนอาจไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศนั้นจะใช้การจ่ายเงินเดือนแบบ 2 ครั้งต่อเดือนกันเป็นปกติ การจ่ายเงินแบบ 2 ครั้งต่อเดือน กับแบบเดือนละครั้ง ในมุมมองของผู้ได้รับเงิน จะมีความแตกต่างกันที่จำนวนเงินที่ได้รับในแต่ละครั้ง (แม้ยอดรวมจะเท่ากันก็ตาม) แต่ในส่วนของผู้จ่ายเงินอาจจะต้องดูเรื่องความยุ่งยากในการเบิกจ่ายเข้ามาด้วย กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที...

ยังไงก็ Moon! Matrixport คาด Bitcoin จะพุ่งในปีหน้า แม้ SEC ไม่อนุมัติ ETF

Markus Thielen นักวิเคราะห์จาก Matrixport เปิดเผยคาดการณ์ว่า ตลาดคริปโตจะปรับตัวขึ้นในปี 2024 แม้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) จะไม่อนุมัติ Spot Bitcoin ETF ก็ตาม โดยจะได้ปัจจัยหนุนจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น เหตุการณ์ Bitcoin halving และโอกาสที่ Donald Trump จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนใหม่แห่งสหรัฐ Thielen ระบุว่า ราคา...

Arkham Intelligence เผยมีผู้ได้รับ airdrop Ethena มูลค่าเกือบ 2 ล้านดอลลาร์

พบผู้โชคดีได้รับ airdrop จาก Ethena Labs มูลค่าเกือบ 2 ล้านดอลลาร์ จากการแจก Ethena (ENA) เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา Arkham Intelligence ระบุว่า ผู้โชคดีดังกล่าวเป็นเจ้าของกระเป๋า 0xb56 ได้รับ 3.3 ล้าน Ethena คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.96...

Dogecoin เป็นของ Elon Musk? เปิดประวัติผู้สร้าง Dogecoin ตัวจริง

Dogecoin สุดยอดเหรียญมีมที่ทุกคนในโลกคริปโตต่างรู้จัก และน่าจะเป็นเหรียญมีมที่โด่งดังที่สุดสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้สนใจในคริปโต Dogecoin เคยช่วยพลิกสถานะทางการเงินของหลายคน ทำให้หลายคนร่ำรวยขึ้นมา เพียงแต่ผู้ที่สร้างเหรียญนี้กลับไม่ได้รับอะไรเช่นนั้นเลย เพราะอะไร เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เรามาหาคำตอบกัน

Wormhole เผยรายละเอียด Tokenomic กลุ่มไหนได้เท่าไหร่ดูได้ที่โพสต์นี้

Web3 มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมอินเทอร์เน็ตที่โปร่งใส trustless เปิดกว้าง และปลอดภัย วิสัยทัศน์นี้พึ่งพา ecosystem ที่ปลอดภัยและเชื่อมต่อกันอย่างราบรื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ Web3 ecosystem ต้องการโปรโตคอลการส่งข้อความพื้นฐานที่ปลอดภัย decentralized ลดการ trust ลงให้น้อยที่สุด และเป็นโอเพ่นซอร์ส เมื่อ 3 ปีที่แล้ว Wormhole (@wormholecrypto) เปิดตัวโปรโตคอลการส่งข้อความทั่วไปตัวแรกที่เชื่อมต่อกับ Ethereum...

Richard Teng เผยเส้นทางจากการกำกับดูแลสายการเงินสู่ซีอีโอ Binance

เมื่อคืนที่ผ่านมา คุณ Richard Teng ซีอีโอของ Binance ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวการเดินทางจากสายการเงินแบบดั้งเดิมสู่โลก Web3 ใน Ask Me Anything โดย CoinMarketCap คุณ Richard ระบุว่า ตัวเค้ามาจากสายการเงินแบบดั้งเดิมและทำหน้าที่ในหน่วยงานกำกับดูแลเป็นส่วนใหญ่ แต่จุดเปลี่ยนก็มาถึงในปี 2017 ที่เค้าเดินทางไปสัมมนาในสหรัฐและได้เจอกับคนในวงการคริปโตมากมาย ซึ่งนั่นสร้างความสนใจให้กับเขา เพราะในมุมมองของคุณ Richard นั้น...

คึกคักสุด ๆ! ปริมาณซื้อขาย Spot Bitcoin ETF วันแรก พุ่งทะลุ 4.5 พันล้านดอลลาร์

Cointelegraph รายงานว่า ปริมาณการซื้อขาย Spot Bitcoin ETF ในวันแรกพุ่งทะลุ 4.5 พันล้านดอลลาร์ โดย ETF ของ BlackRock, Grayscale และ Fidelity มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด ขณะเดียวกัน ETF ของ Hashdex ยังไม่สามารถซื้อขายได้เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐยังไม่ได้อนุมัติแบบฟอร์ม...

เทียบกันไปเลย! ค่าธรรมเนียม Spot Bitcoin ETF ใครถูก-แพง ดูได้ที่นี่

เหลืออีกเพียง 2 วัน ก่อนจะถึงวันที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐ จะอนุมัติ Spot Bitcoin ETF หนึ่งรายหรือมากกว่านั้น และผู้ยื่นขอทั้งหมดได้เปิดเผยข้อมูลค่าธรรมเนียมกองทุนของตนเองออกมาแล้ว Bitwise กับ ARK เสนอที่จะยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการซื้อขายใน 6 เดือนแรก และ/หรือกองทุนมีสินทรัพย์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากนั้นจะเก็บค่าธรรมเนียม 0.24% กับ...

บทความที่เกี่ยวข้อง | RELATED ARTICLE

ทำความรู้จัก Starknet การปฏิวัติ Ethereum ด้วยการขยายขนาด Layer 2

Starknet คืออะไร Starknet คือ permissionless Validity-Rollup Layer 2 (หรือที่เรียกกันว่า “ZK-Rollup”) บน Ethereum ช่วยให้ทำธุรกรรมได้เร็วขึ้น มีค่า gas ต่ำ และมีความปลอดภัยแบบเดียวกับ Ethereum Layer 1 หรือจะบอกว่าเป็น Ethereum ที่อัปเกรดขึ้นก็ได้ วิธีการทำงานของ Starknet คือการลดเวลาในการยืนยันธุรกรรมที่ทุกคนในเครือข่ายต้องทำ...

ถ้าคุณมีเงิน 120,000 ล้านบาท คุณจะเอาไปทำอะไร?

KEY TAKEAWAYS ในโลกคริปโต ไม่มีการแฮ็กครั้งใดจะมีความเสียหายมากไปกว่าเหตุการณ์แฮ็ก Bitfinex ในปี 2016 อีกแล้ว โดยผู้ลงมือแฮ็กในครั้งนั้นได้ไป 119,756 Bitcoin หรือประมาณ 120,000 ล้านบาท หากเทียบจากราคาปัจจุบัน แม้ปัจจุบันจะมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว รวมถึงได้ Bitcoin คืนมากว่า 94,636 Bitcoin แต่ก็ยังคงเป็นปริศนาว่าใครคือผู้ลงมือแฮ็กครั้งประวัติศาสตร์นี้ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยในคดีนี้คือคู่สามีภรรยา Ilya Lichtenstein และ Heather...

Checklist 69 นโยบายเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล

Checklist 69 นโยบายเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล

เมื่อเงินเท่าเดิมแต่ซื้อของได้ไม่เท่าเดิม อธิบายเหตุการณ์ เงินเฟ้อ

เคยได้ยินผู้ใหญ่พูดไหม ว่าเมื่อก่อน บรรดาของกินของใช้ถูกกว่าสมัยนี้มาก อย่างเช่น สมัยพ่อนะ ก๋วยเตี๋ยวชามละไม่ถึง 3 บาทเลย หรือจะเป็น ทองคำเมื่อก่อนบาทละไม่กี่ร้อยเอง เป็นต้น สิ่งที่ทำให้ราคาของสิ่งของเมื่อก่อนกับตอนนี้แตกต่างกันก็คือ เงินเฟ้อ ซึ่งเกิดจากความไม่สม่ำเสมอในการจัดหาและความต้องการสินค้าและบริการ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหาว่าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วที่มากจนเกินไป อาจทำให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจได้ แล้วคุณจะทำอย่างไรถ้าหากว่าเงินของคุณจะมีมูลค่าน้อยลงในวันพรุ่งนี้ ? เงินเฟ้อคืออะไร อธิบายอย่างง่ายๆ เงินเฟ้อคือการที่อำนาจในการซื้อสินค้าและบริการของสกุลเงินลดน้อยลง ซึ่งจะทำให้สินค้าและบริการมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุของเงินเฟ้อ สาเหตุหลักๆ ของเงินเฟ้อคือ การที่มีจำนวนเงินในระบบเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือการที่ขาดความสามารถในการจัดหาสินค้าที่มีความต้องการสูงจนเกิดการขาดแคลน แต่จริงๆ...

ไขความลับอัตราดอกเบี้ย

หลังจากที่เราได้พูดคุยกันไปในบทความเรื่อง “ถอดรหัสการทำงานของระบบเศรษฐกิจ” ทำให้เรารู้ว่า เครดิต ทำหน้าที่เป็นเหมือนน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์ของการค้าโลก ลองนึกภาพว่า เราสามารถยืมเงินมาซื้อของที่เราต้องการได้ตอนนี้ แล้วค่อยจ่ายคืนทีหลัง เช่นเดียวกัน ภาคธุรกิจใช้เครดิตเพื่อให้ได้มาซึ่งสินทรัพย์  สร้างกำไร แล้วค่อยชำระคืนเจ้าหนี้ ทีนี้คำถามคือ แล้วทำไมบางคนถึงให้คนอื่นยืมเงินตั้งแต่แรก ? และนี้คือแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย คืออะไร ? คิดว่าดอกเบี้ยเป็นค่าบริการที่ผู้ให้กู้เรียกเก็บจากผู้กู้ สมมุติว่า โทนี่ยืมเงิน 10,000 บาทจากสตีฟในอัตราดอกเบี้ย 5% โทนี่จำเป็นต้องคืนเงินให้กับสตีฟจำนวน...

ความแตกต่างระหว่างการหลอกลวงแบบ Ponzi และ Pyramid

นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในโลกคริปโตทั้ง Bitcoin แล้วก็พวก Initial Coin Offering (ICO) มักจะมีเรื่องที่คิดถึงอยู่ด้วยกันสองเรื่องคือ คิดว่าตัวเองจะได้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้เท่าไหร่ และคิดว่าในการลงทุนแต่ละครั้ง มีความเสี่ยงจากการลงทุนเท่าไหร่ จริงๆ ความเสี่ยงถือเป็นเรื่องปกติของนักลงทุน ไม่มีการลงทุนแบบใดที่ไม่มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงที่ว่านั้นอาจจะเพิ่มขึ้นแบบไม่คาดคิดถ้าหากว่าพลาดไปลงทุนในโปรเจกต์ที่เป็นแชร์ลูกโซ่ (Ponzi) หรือว่าแบบพิระมิด (Pyramid) ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะเข้าใจถึงลักษณะและหลักการของโปรเจกต์แบบ Ponzi และ Pyramid โปรเจกต์แบบ Ponzi คืออะไร ? โครงการแบบ Ponzi...

ช่วงเวลาที่ไม่มีใครต้องการ ทำความรู้จักกับตลาดหมี

บนเส้นทางสู่ความสำเร็จทางการเงิน เราได้เจอกับสภาวะที่หลากหลายของโลกแห่งการลงทุน การเดินทางครั้งนี้ได้แรงผลักดันจากแนวโน้มของตลาด ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเรา เช่นเดียวกับกะลาสีเรือที่จะต้องเข้าใจธรรมชาติของท้องทะเล นักลงทุนก็จำเป็นจะต้องเข้าใจถึงแนวโน้มของตลาด แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อตลาดไม่อยู่ในขาขึ้น วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของโลกแห่งการลงทุน นั้นก็คือ ตลาดหมี (Bear Market) ตลาดหมี หรือ Bear Market คืออะไร ? ลองนึกภาพหมีสีป่าสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่ใช้อุ้งเท้าของมันปัดลงมา เช่นเดียวกัน ตลาดหมีหมายถึงช่วงเวลาที่ราคาของสินทรัพย์ในตลาดตกต่ำลง และอาจทำให้การเดินทางในโลกของการลงุทนสำหรับมือใหม่กลายเป็นเรื่องที่ยาก ตลาดหมีมักมีลักษณะเฉพาะที่แปลกประหลาด เหตุการณ์ที่เรียกว่า “ขึ้นบันได ลงลิฟต์” หมายถึง สถานการณ์ที่ราคาของสินทรัพย์ค่อยๆ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง | RELATED NEWS

ส่งท้ายปี! หุ้นบ.คริปโตร่วงระนาว หลังนักลงทุนเทขายทำกำไรในการเทรดวันสุดท้ายของปี

หุ้นของบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ถูกเทขายอย่างรุนแรงในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเป็นวันเปิดทำการตลาดหุ้นวันสุดท้ายของปี หลังราคาคริปโตปรับตัวขึ้นอย่างมากในปี 2023 หุ้น Coinbase ปรับตัวลง 8% ขณะที่หุ้นของ MicroStrategy ซึ่งถือ Bitcoin มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ปรับตัวลง 7% ด้านกลุ่มผู้ขุดเหมืองก็ไม่ต่างกัน โดย Marathon Digital Holdings...

Formless ระดมทุน 2.2 ล้านดอลล์ ในรอบ Pre-Seed Funding นำโดย a16z

Formless บริษัทจากเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ที่กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายแบบ decentralized สำหรับการจัดการสิทธิในทรัพย์สินและแบ่งปันรายได้ ระดมทุน 2.2 ล้านดอลลาร์ ในการระดมทุนรอบ Pre-Seed funding

4EVERLAND ระดมทุน 2 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Second Round Financing เพื่อเร่งขยายบริษัท

4EVERLAND ประกาศเสร็จสิ้นการระดมทุน 2 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Second Round Financing โดยมีนักลงทุนสถาบันและรายบุคคลเข้าร่วมมากมาย เช่น Arweave, WaterDrip Capital, Bing Ventures, Forward Research, Web3.com Ventures, Arweave SCP Ventures, GTS Ventures, Hillstone และอื่น ๆ โดยเงินทุนที่ได้จะนำไปใช้พัฒนาและขยาย 4EVERLAND ต่อไป รวมถึงผลักดันการเติบโตและการพัฒนา ecosystem ทั่วโลก

ส่งท้ายปี! หุ้นบ.คริปโตร่วงระนาว หลังนักลงทุนเทขายทำกำไรในการเทรดวันสุดท้ายของปี

หุ้นของบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ถูกเทขายอย่างรุนแรงในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเป็นวันเปิดทำการตลาดหุ้นวันสุดท้ายของปี หลังราคาคริปโตปรับตัวขึ้นอย่างมากในปี 2023 หุ้น Coinbase ปรับตัวลง 8% ขณะที่หุ้นของ MicroStrategy ซึ่งถือ Bitcoin มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ปรับตัวลง 7% ด้านกลุ่มผู้ขุดเหมืองก็ไม่ต่างกัน โดย Marathon Digital Holdings...

Formless ระดมทุน 2.2 ล้านดอลล์ ในรอบ Pre-Seed Funding นำโดย a16z

Formless บริษัทจากเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ที่กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายแบบ decentralized สำหรับการจัดการสิทธิในทรัพย์สินและแบ่งปันรายได้ ระดมทุน 2.2 ล้านดอลลาร์ ในการระดมทุนรอบ Pre-Seed funding

4EVERLAND ระดมทุน 2 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Second Round Financing เพื่อเร่งขยายบริษัท

4EVERLAND ประกาศเสร็จสิ้นการระดมทุน 2 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Second Round Financing โดยมีนักลงทุนสถาบันและรายบุคคลเข้าร่วมมากมาย เช่น Arweave, WaterDrip Capital, Bing Ventures, Forward Research, Web3.com Ventures, Arweave SCP Ventures, GTS Ventures, Hillstone และอื่น ๆ โดยเงินทุนที่ได้จะนำไปใช้พัฒนาและขยาย 4EVERLAND ต่อไป รวมถึงผลักดันการเติบโตและการพัฒนา ecosystem ทั่วโลก

Merkle มองเดือนธันวา เงินทุนใหม่ไหลเข้ามากที่สุดในรอบ 20 เดือน แนะ Bitcoin และ Liquid staking น่าจับตา

เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้มีกระแสด้านลบในตลาดคริปโทฯ เกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น การถูกสั่งปรับของ Binance และการลาออกจากตำแหน่งของ CEO อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดนั้นยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเงินทุนใหม่ที่ไหลเข้าสู่ตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและโอกาสของตลาดคริปโทฯ อย่างมีนัยสำคัญ  นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคริปโทฯ มีแนวโน้มเติบโตได้สูงและน่าจับตามองในเดือนธันวาคม โดยเฉพาะ Bitcoin และกลุ่ม Liquid staking ด้วยเหตุผลสนับสนุน ดังนี้ 1) เงินทุนไหลเข้าตลาดจำนวนมากที่สุดในรอบ 20 เดือน จากภาพรวมเงินทุนของ Stablecoin พบว่า เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

Save Settings