KEY TAKEAWAYS
- หากภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอนของสหรัฐฯ เป็นจริงขึ้นมา สหภาพยุโรปอาจได้รับผลกระทบ เพราะปัจจุบันพึ่งพาโรงถลุงแร่ของจีนเป็นหลัก
- จีนผลิตเหล็กมากกว่า 60% ของโลก ส่วนอลูมิเนียมผลิตประมาณ 57% และยังปล่อยมลพิษรายใหญ่ของโลกอีกด้วย
Bloomberg รายงานว่าสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาภาษีใหม่เกี่ยวกับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากจีน เพื่อต่อสู้กับการปล่อยปริมาณคาร์บอน นี่ยังเป็นเพียงแนวความคิดในคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังไม่ได้รับการเสนออย่างเป็นทางการ
แต่หากมันเป็นจริงขึ้นมา น่าจะส่งผลกระทบต่อสหภาพยุโรป เนื่องจากโรงงานในยุโรปต้องปิดตัวลงเพราะราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน จนต้องหันไปพึ่งโรงถลุงแร่ของจีนแทน ยอดขายอะลูมิเนียมของจีนในต่างประเทศทะลุสถิติเดิม โดยขายได้ 677,000 ตันในเดือนพฤษภาคมและส่วนใหญ่ขายให้กับยุโรป
การพึ่งพานี้เน้นย้ำความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้ Supply ลดลงหรือต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายเพื่อจะทำให้มลพิษลดลง “Biden อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและสร้างความเสียหายต่อการค้าโลก” พอล แกมเบิลส์ (Paul Gambles) ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ MBMG Group ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV
ทั้งนี้ จีนผลิตเหล็กมากกว่า 60% ของโลก ส่วนอลูมิเนียมผลิตประมาณ 57% นับว่าเป็นผู้ผลิตรายใหญ่สุดในโลก และยังเป็นผู้ก่อมลพิษรายใหญ่สุดในโลกอีกด้วย อุตสาหกรรมเหล็กปล่อยมลพิษเยอะสุดเป็นอันดับสองรองจากการผลิตไฟฟ้าของจีน และหากรวมมลพิษจากการผลิตเหล็กและอะลูมิเนียม จะถือว่าเป็น 20% ของมลพิษทั้งประเทศทีเดียว
แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการภาษีที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนนี้จะเปลี่ยนทิศทางอุตสาหกรรมเหล็กของจีนอย่างไร