KEY TAKEAWAYS
- Goldman Sachs คาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงถึง 5% ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า
- ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของ FED อยู่ที่ 3 – 3.25%
- David Solomon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Goldman Sachs คาดว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ FED จะปรับอัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สี่
ธนาคารเพื่อการลงทุน และการให้บริการทางการเงินข้ามชาติ อย่าง โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) เผยถึงการคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดยระบุว่า ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า FED อาจปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสูงถึง 5%
เดวิด โซโลมอน (David Solomon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Goldman Sachs ระบุว่า มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นราว 4.5% – 4.75% ซึ่งนับว่าสูงกว่าระดับที่คาดการณ์เอาไว้ หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และสภาวะเงินเฟ้อยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น
ต้องจับตาดูต่อไปว่าการประชุมครั้งถัดไปของ FED ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน (เวลา 01.00 น. เวลาประเทศไทย) จะมีการเพิ่มมาตรการหรือนโยบายทางการเงินที่รุนแรงมากกว่านี้หรือไม่ แต่คาดว่า FED จะทำการปรับอัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สี่ โดยคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มอีก 0.5% ในเดือนธันวาคม และเดือนกุมภาพันธ์ , มีนาคมปีหน้าอาจปรับเพียง 0.25% ทำให้มีแนวโน้มสูงมากที่ FED จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจนสูงถึง 5% ขณะที่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของ FED อยู่ที่ 3 – 3.25%
โดยสาเหตุหลักจากการที่ FED ปรับอัตราดอกเบี้ยนั้น เพื่อต้องการลดภาวะเงินเฟ้อ แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่ากังวล ดังนั้นจึงต้องดูต่อไปว่า จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED หลังเดือนกุมภาพันธ์ อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจะยังเข้มข้นอยู่หรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะส่งผลต่อการตัดสินใจของ FED ในการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
Reference: Nasdaq