KEY TAKEAWAYS
- White Paper ของ Bitcoin เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2008 วันนี้จึงเป็นวันครบรอบ 14 ปีการเผยแพร่
- White Paper ของ Bitcoin เป็นเอกสาร 9 หน้า จำนวน 3,192 คำ ที่อธิบายรายละเอียดของ Bitcoin ไว้อย่างครบถ้วน
- ปัจจุบัน Bitcoin ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจและการเงินของโลกอย่างที่เราไม่อาจจะจินตนาการได้
หลายคนอาจจะจำว่าวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันฮัลโลวีน แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สำหรับแฟนตัวยงของ Bitcoin (BTC) เพราะวันที่ 31 ตุลาคม 2008 หรือวันนี้เมื่อ 14 ปีที่แล้ว เป็นวันแรกที่ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) เผยแพร่ White Paper ที่อธิบายรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีสกุลแรกของโลกไว้
Satoshi ได้ส่งเอกสาร 9 หน้า จำนวน 3,192 คำไปยัง Cryptography Mailing List ของเว็บไซต์ metzdowd.com มีหัวข้ออีเมลที่อาจดึงดูดความสนใจของนักถอดรหัสพาดหัวไว้ว่า “Bitcoin P2P e-cash paper” พร้อมกับข้อความรายละเอียดคร่าวๆ ว่า…
“ฉันกำลังพัฒนาระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ซึ่งเป็นการใช้ peer-to-peer แบบเต็มรูปแบบ และไม่ต้องพึ่งตัวกลางใดๆ’”
ในเอกสารอธิบายรายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับ Bitcoin ไว้อย่างครบถ้วน เช่น กลไกยืนยันธุรกรรมแบบ Proof-of-Work, การไม่เปิดเผยตัวตน, กลไกการป้องกันการจ่ายซ้ำซ้อน ฯลฯ
แต่ทั้งนี้ใน Whitepaper ของ Bitcoin ยังไม่ปรากฎคำว่า Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่รันอยู่เบื้องหลังคริปโตเคอร์เรนซี มีเพียงคำว่า ‘blocks are chained (บล็อกถูกเชื่อมกันด้วยโซ่)’ และ ‘chain of blocks (โซ่ของบล็อก)’ เท่านั้น
White Paper ของ Bitcoin ดูเหมือนจะเป็นเอกสารที่เล่าถึงนวัตกรรมที่เหมือนจะมีการวางแผนการณ์ไว้อย่างยาวไกล แต่ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2008 ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับอีเมลจาก Satoshi จะเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาได้อ่านในวันนั้นจะเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกมาจนถึงทุกวันนี้
บางคนอาจเกิดความสนใจ บางคนอาจปล่อยผ่าน และบางคนอาจสงสัยว่านวัตกรรมที่อธิบายในเอกสารเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ พวกเขาไม่อาจรู้ได้ในทันที…
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน วันที่ 3 มกราคม 2009 บล็อกต้นกำเนิดของ Bitcoin ก็ถูกขุด และในวันที่ 9 มกราคม มนุษย์คนแรกก็ได้ทำธุรกรรมผ่าน Bitcoin เป็นครั้งแรกของโลก ทำให้พวกเขารู้แล้วว่า Bitcoin ได้เกิดขึ้นจริง
เวลาผ่านมาแล้วกว่า 14 ปี จากกลุ่มคนเล็กๆ ที่เชื่อในระบบที่ไร้ตัวกลาง ในวันนี้ Bitcoin ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจและการเงินของโลกอย่างที่เราไม่อาจจะจินตนาการได้
แล้วในอีก 14 ปี ข้างหน้าล่ะ… มันจะยังมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกของเราอยู่ไหม และถ้ามันยังมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอยู่ คำถาม คือ ความเชื่อในตัวกลางของผู้คนจะลดน้อยลงแค่ไหนหรือยังคงเดิม และระบบการเงินของโลกเราจะหน้าตาเป็นเช่นไร ถ้า Bitcoin ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินที่สำคัญของโลกอย่างแท้จริง
References: Watcher.guru, Investopedia