fbpx

7 กับดักทางจิตวิทยาที่นักลงทุนทุกคนต้องเข้าใจ

HomeINVESTINGPSYCHOLOGY | Investing7 กับดักทางจิตวิทยาที่นักลงทุนทุกคนต้องเข้าใจ

ช่องทางการติดตาม

KEY TAKEAWAYS

  • Anchoring Bias คือการยึดติดกับข้อมูลที่เห็นก่อนเป็นครั้งแรก เมื่อต้องตัดสินใจก็จะเอาข้อมูลแรกเป็นจุดอ้างอิง
  • Sunk Cost ต้นทุนจม ต้นทุนที่เสียไปแล้วไม่ควรนำมาพิจารณาในการลงทุนครั้งต่อไป
  • Confirmation Bias คือการเสพข้อมูลทางเดียว เพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองเชื่อ
  • Overconfidence หรือความมั่นใจมากที่เกินไป ทำให้เราลงทุนโดยประเมินความเสี่ยงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
  • Loss Aversion คือความเกลียดชังการสูญเสีย ซึ่งจะทำให้เรากลัวมากเกินไปจนพลาดโอกาสได้
  • Familiarity Bias อคติทางความคุ้นเคย ที่จะทำให้เราเลือกลงทุนในสิ่งที่คุ้นเคยเป็นหลัก แม้ว่าบางครั้งสิ่งนั้นอาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีอีกต่อไปแล้วก็ตาม
  • Herding Behavior เป็นพฤติกรรมที่คนมักจะทำตามๆ กัน ทำให้เกิดการลงทุนตามกระแส โดยอาจจะไม่ได้หาข้อมูลอื่นใดมาประกอบ

ถ้าพูดถึงเรื่องการลงทุนหลายๆ คนน่าจะนึกถึงเรื่องของตัวเลข การวิเคราะห์ การประเมินความเสี่ยง การบริหารพอร์ตต่างๆ แต่จริงๆ แล้วนอกเหนือไปจากเรื่องของการวิเคราะห์เชิงตัวเลขเหล่านี้แล้ว มีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันซึ่งนั้นก็คือเรื่องของ ‘จิตวิทยาการลงทุน’

ที่นักลงทุนมือเก๋าหรือมือใหม่ที่เริ่มลงทุนมาสักระยะหนึ่งจะรู้กันดีว่าเรื่องของจิตวิทยาการลงทุน นั้นสำคัญมาก ในบทความนี้เราเลยจะมาพูดถึง 7 จิตวิทยาสำคัญที่อาจทำให้นักลงทุนไขว้เขวในการตัดสินใจได้ และวิธีการหลีกเลี่ยงเพื่อให้มันมันมีผลกับการตัดสินใจของเราน้อยลง

7 จิตวิทยาการลงทุน
7 จิตวิทยาที่มักจะเกิดระหว่างการลงทุน ลองมาทำความเข้าใจ เพื่อให้รู้เท่าทันและสามารถหลีกเลี่ยงจากมันให้ไกล

Anchoring Bias | อคติในการยึดติดกับข้อมูลที่ได้รับ

Anchor ที่แปลตามความหมายได้ว่า สมอเรือ ที่ใช้ยึดติดเรือให้อยู่กับที่ไม่ไปไหน ซึ่งตรงกับพฤติกรรมของมนุษย์ที่หลายครั้งเรามักจะยึดติดอยู่กับ “ข้อมูล” บางอย่างที่เราได้รับมา เช่น ถ้าเราเคยเห็นว่านาฬิกาเรือนหนึ่งเคยตั้งขายอยู่ที่ 100,000 บาท เราก็จะจดจำว่านาฬิกาเรือนนี้รุ่นนี้ต้อง 100,000 บาท และเมื่อมันลดราคาลงมาเหลือ 70,000 บาท เราก็จะรู้สึกว่ามันถูกจังแบบนี้ต้องรีบซื้อแล้วล่ะ

ซึ่งอาจจะทำให้เราไม่ได้ประเมินมูลค่าจริงๆ ของนาฬิกาเรือนนั้นว่ามันควรที่จะราคา 70,000 บาท จริงๆ ไหม หรือมันเคยขายที่ 100,000 บ้างหรือเปล่า หรือเขาแค่ตั้งราคาสูงไว้เพื่อจัดโปรโมชั่น

Daniel Kahneman, Amos Tversky
แดเนียล คาห์นะแมน (Daniel Kahneman) และเอมอส ทเวิร์สกี (Amos Tversky) สองนักจิตวิทยาชาวอิสราเอลผู้มีผลงานด้านจิตวิทยามากมาย | ภาพจาก Thinkingheads และ Twitter

หรืออย่างในงานทดลองชิ้นหนึ่งของ นักจิตวิทยาชาวอิสราเอลแดเนียล คาห์นะแมน (Daniel Kahneman) และเอมอส ทเวิร์สกี (Amos Tversky) ที่ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับ Anchoring Trap ว่าสิ่งนี้มีผลต่อการตัดสินใจของเราจริงหรือไม่

โดยผู้เข้าร่วมการทดลองจะถูกถามว่า มีประเทศในทวีปแอฟริกาที่เป็นสมาชิกของ United Nations (UN หรือ องค์การสหประชาชาติ) อยู่ทั้งหมดกี่เปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้เปอร์เซ็นต์ที่ถูกต้องอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะให้เดาคำตอบ เขาได้ให้ผู้เข้าทดลองหมุนวงล้อที่มีเลข 10 และ 65

ผลปรากฎว่ากลุ่มผู้เข้าทดลองที่หมุนวงล้อได้เลข 10 จะเดาคำตอบเฉลี่ยอยู่ที่ 25 ในขณะที่กลุ่มที่หมุนวงล้อได้ 65 จะเดาคำตอบเฉลี่ยอยู่ที่ 45 นั่นหมายถึงผู้เข้าทดลองทั้งสองกลุ่มนี้ติดกับตัวเลข 10 และ 65 ที่พวกเขาเจอก่อนที่จะเดาคำตอบนั่นเอง

แน่นอนว่าความลำเอียงแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นกับการตัดสินใจซื้อนาฬิกาหรือข้อมูลประเทศก็คงจะไม่มีผลอะไร แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับการลงทุนของเราแล้วล่ะก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก

ตัวอย่างเช่นในวงการคริปโต กระดานเทรดยักษ์ใหญ่อันดับสองของโลกอย่าง FTX ที่มีเหรียญ FTT เป็น Native Token (เหรียญหลักของระบบ) ที่เคยซื้อขายกันที่ 30 ดอลลาร์ ไม่กี่วันก่อนที่จะประกาศล้มละลาย ถ้าเราเข้าซื้อในจุดนั้น และปล่อยให้ Anchoring Bias บังตาเรา เราก็จะอาจจะคิดว่าเดี๋ยววันหนึ่งมันก็อาจจะกลับมาเพราะตอนที่เราซื้อนั้น เขาซื้อขายกันที่ 30 ดอลลาร์ และก่อนหน้านั้น FTT ก็ยังเคยมีราคาถึง 84 ดอลลาร์มาแล้วด้วย แต่อย่างที่เรารู้กันว่าตอนนี้ FTT คงไม่กลับมาแล้ว

ตัวอย่าง FTX อาจจะดูสุดโต่งไปบ้าง แต่ถ้ายกตัวอย่างอีกเหรียญที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง LUNA แล้วล่ะก็ หลายคนอาจจะคุ้นเคยมากขึ้น เพราะครั้งหนึ่งเหรียญ LUNA เคยซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 119 ดอลลาร์ และมีผู้ชื่นชอบโปรเจกต์นี้อยู่ทั่วโลก แต่หลังจากที่ความผิดพลาดของการออกแบบระบบเผยออกให้เห็น ราคาก็รูดลงอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามีคนที่ตัดสินใจขายในทันที แต่ก็มีอีกหลายคนที่สูญเสียเงินจากการเข้าไปช้อนซื้อ เพราะเชื่อว่ามันจะกลับมา และสำหรับคนที่ยังถือไว้นั้นมูลค่าก็หายไปเกือบจะ 100%

วิธีหลีกเลี่ยง : การลงทุนทุกอย่างนั้นเราควรพิจารณาข้อมูล ณ ตอนที่เราพิจารณา (Mark to the market) “โดยไม่อิงต้นทุนว่าเราซื้อมาเท่าไหร่” อย่าติดกับดักของ anchoring trap ด้วยการยึดติดกับราคาที่เราซื้อมา เช่น ถ้าเหตุการณ์เปลี่ยน บริษัทไม่ได้ดีเหมือนอย่างเคย แต่เรายังดันทุรังเชื่อว่าหุ้นที่เราซื้อจะกลับมาที่ราคาที่เราเคยซื้อ โดยที่เราไม่สามารถหาข้อมูลมาซัพพอร์ตได้เลย ก็อาจจะทำให้เราตัดสินใจไม่ขาย หรือหรือพลาดโอกาส Cutloss (การยอมขายขาดทุนก่อนที่จะขาดทุนไปมากกว่านี้) และขาดทุนหนักได้

Sunk Cost | อคติต้นทุนจม

ขอยกตัวอย่างที่ทุกคนน่าจะเห็นภาพได้ดีที่สุดก็ คือ เรื่องการดูหนัง สมมุติว่าเราอยากที่จะดูหนังเรื่องหนึ่งมาก และในที่สุดเราก็ตัดสินใจซื้อตั๋วหนังที่อยากดูมาในราคา 300 บาท และหลังจากเข้าไปดูได้ครึ่งเรื่องเราก็ได้พบว่าหนังเรื่องนี้ไม่สนุกเอาเสียเลย…

แต่เราก็ยังพยายามที่จะนั่งดูอยู่แบบนั้นจนจบโดยที่ไม่ลุกออกไป เพราะเรารู้สึกว่าเราได้จ่ายเงินเข้ามาแล้ว และเราก็ดูมาตั้งครึ่งเรื่องแล้วด้วย ไหนๆ ก็ขอดูให้จบเลยละกัน

ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้เองที่เรียกว่า ‘Sunk Cost’ หรือ ‘คติต้นทุนจม’

เพราะตั๋วหนังที่เราเสียไปแล้ว 300 บาท นั้นยังไงก็ไม่มีทางได้คืน (Sunk Cost) แต่เวลาอีก 60 นาที จากหนังครึ่งเรื่องที่ไม่สนุกนั้นเรายังเอาไปทำอย่างอื่นได้นั่นเอง

ในเชิงของการลงทุนบางครั้งเราก็อาจจะมีความคิดนี้เข้ามาในหัวได้โดยไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน เช่น เราได้เข้าไปซื้อเหรียญตัวหนึ่งสมมุติว่าชื่อ LUNER และเราเข้าซื้อในราคา 100$ หลังจากนั้นไม่นานหลังจากเราซื้อก็เริ่มมีข่าวไม่ดีออกมา เกี่ยวกับช่องโหว่และปัญหาของอัลกอริทึมที่เสี่ยงทำให้โปรเจกต์พังได้เลย ส่งผลให้ราคาลดลงมาอยู่ที่ 50$ แล้ว ทำให้ในตอนนี้เราขาดทุนไปแล้ว 50$

คำถาม คือ เราจะตัดขายตอนนี้ หรือ ถือไว้เพื่อรอราคามันกลับมา (ซึ่งกลับหรือไม่ก็ยังไม่รู้) แต่ไม่ว่าเราจะเลือกทางไหนก็ตาม ถ้าหากเราตัดสินใจโดยเอาต้นทุนที่ได้เสียไป 50$ มาคิดหรือให้น้ำหนักด้วยนั้นหมายถึงเรากำลังติดอยู่กับ Sunk Cost นั้นเอง

เพราะ 50$ ได้คืนหรือไม่ก็ไม่รู้ และถ้าโปรเจกต์นั้นชื่อ LUNA ด้วยละก็ไม่ได้คืนแน่ๆ แต่อีก 50$ นั้นยังเป็นเงินของเรา ซึ่งสามารถเอาไปลงทุนอย่างอื่นได้

ด้วยอคติแบบนี้นี่เองที่บางครั้งก็ทำให้นักลงทุนพลาดโอกาสในการลงทุนหุ้น หรือเหรียญอื่นๆ ที่น่าสนใจ เพียงเพราะว่าไม่อยากสูญเสียต้นทุนเหล่านั้นไปฟรีๆ (ทั้งๆ ที่เสียไปแล้ว)

วิธีหลีกเลี่ยง : ใช้วิธีเดียวกับ Anchoring Bias ได้เลย คือประเมินทุกอย่าง ณ ปัจจุบัน โดยพยายามอย่าให้น้ำหนักกับเงินที่ได้เสียไปแล้ว หรือตัวเลขที่กำลังติดลบอยู่ของพอร์ตหรือ Position

Confirmation Bias | อคติจากการพยายามยืนยันข้อมูลของตนเอง

‘ใครๆ ไม่ก็อยากรู้สึกว่าตัวเองคิดผิด’ เพราะทุกครั้งที่เราคิดผิดเราคงไม่ได้รู้สึกดี แต่เราจะรู้สึกแย่ว่าเพราะอะไรกันนะฉันถึงผิด หรือบางทีเราก็อาจจะกลัวเสียหน้า หรือรู้สึกว่าเราไม่เก่ง ทำให้หลายครั้งเมื่อเราต้องตัดสินใจ หรือโต้เถียงในห้องประชุม แทนที่เราจะหาข้อมูลมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจให้ดีที่สุด เรากลับหาข้อมูลมายืนยันว่า ‘ตัวเราเองนั้นคิดถูก’

พฤติกรรมนี้ทำให้นักลงทุนมองข้ามข้อเท็จจริงอันหลากหลายที่อาจจะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจ เพียงเพราะว่ามันไม่ตรงกับความเชื่อของตนเอง และส่งผลให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจมากเกินไป และยึดติดอยู่กับบริษัทหรือโปรเจกต์ (เหรียญ) เพียงไม่กี่อัน แน่นอนว่ามันค่อนข้างเสี่ยง และในขณะเดียวกันเราก็พลาดโอกาสอื่นๆ เพราะเราคิดว่า ‘ที่เราเลือกมานี้ดีสุดแล้ว ไม่มีดีกว่านี้หรอก’ และหาข้อมูลมายืนยันว่าตัวเองคิดถูกไปเรื่อยๆ

วิธีหลีกเลี่ยง : พยายามฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ไม่ถามข้อมูลเพื่อยืนยันความคิดของตัวเอง แต่จงถามเพื่อมองหาข้อเท็จจริง พยายามเปิดรับความคิดเห็นที่ตรงกันข้าม โดยเฉพาะคนที่เห็นต่างจากเราดูบ้าง หรือความคิดที่เราอาจจะไม่เห็นด้วยเลยแม้แต่น้อย และมาพิจารณาให้ดีว่าเราพลาดอะไรไปหรือเปล่า

การฝึกลด Confirmation Bias จะทำให้เราสามารถที่จะประเมินมูลค่าของการลงทุน บริษัท และโปรเจกต์ต่างๆ ด้วยความคิดที่เป็นกลางได้ดีมากขึ้น

Overconfidence | มั่นใจเกินไป

อันที่จริงพฤติกรรมแบบมั่นใจมากเกินไปนี้ไม่เพียงพบในหมู่นักลงทุนเท่านั้น แต่ยังพบกระจายอยู่ทั่วไปในทุกสาขาอาชีพ เคยมีการศึกษาเกี่ยวกับความมั่นใจชิ้นหนึ่งที่ชื่อว่า ‘Confidence in the recognition and reproduction of words difficult to spell’ (ความมั่นใจในการจดจำและสะกดคำยาก)

โดยให้ผู้เข้าร่วมการทดลองจำคำก่อนที่จะทดสอบ โดยส่วนมากผู้เข้าร่วมทดลองมักจะบอกว่าตนเองนั้นสามารถที่จะสะกดคำยากเหล่านั้นได้ถูกต้อง 100% แต่หลังจากการทดสอบผลปรากฎว่า ผู้เข้าทดลองสามารถสะกดคำได้ถูกต้องเพียง 80% เท่านั้น แน่นอนว่ามีการทดลองในลักษณะนี้อีกจำนวนมากที่บ่งชี้ว่า ‘เรามักจะประเมินตัวเองสูงหรือต่ำเกินไปเสมอ’ เมื่อเทียบกับความสามารถที่แท้จริงของเรา

“ความมั่นใจเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามากเกินพอดีก็อันตราย”

ยกตัวอย่างเช่น เราไปเจอหุ้นตัวหนึ่งและเรารู้สึกว่าเรามั่นใจมากๆ จนทุ่มแบบหมดหน้าตัก พร้อมกับใช้ Leverage หรือ Margin หนักๆ แน่นอนว่าถ้าเราคิดถูกเราก็จะรวยแบบเปลี่ยนชีวิตในชั่วข้ามคืนได้เลย แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าเราผิดนั้นหมายถึงหายนะ เพราะเราอาจจะสูญเสียจนหมดตัว

วิธีหลีกเลี่ยง : ทุกครั้งที่เรากำลังรู้สึกมั่นใจมากๆ ในการลงทุน ให้เราลองถามตัวเองดูว่า สัดส่วนในการลงทุนครั้งนี้ถ้าเกิดผิดพลาดจะเกิดอะไรขึ้น เราจะรับได้ไหม หรือถ้าเราใช้ความเสี่ยงมากๆ เรามีเหตุผลที่ดีมากพอไหมที่จะไม่บาลานซ์ความเสี่ยงใหม่

Loss Aversion | ความเกลียดชังการสูญเสีย

ในโลกของการลงทุน ไม่มีการลงทุนไหนที่ไม่เสี่ยง เพราะแม้แต่คนที่เก่งที่สุดในโลกของการลงทุนก็ยังเคยพลาดและสูญเสีย แต่จะมีบางครั้งที่นักลงทุนไม่สามารถยอมรับการขาดทุนหรือสูญเสียเงินทุนบางส่วนไปได้เลย นั่นคืออาการ Loss Aversion

ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เราจะทุกข์ใจหากเสียเงิน มากกว่าความสุขที่เราได้รับเงิน พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็ คือ ‘การไม่เสีย 100 ดอลลาร์ ดีกว่าการได้รับ 100 ดอลลาร์’

พฤติกรรมนี้ค้นพบโดยสองนักจิตวิทยา แดเนียล คาห์นะแมน (Daniel Kahneman) และเอมอส ทเวอร์สกี (Amos Tversky) ซึ่งสรุปงานวิจัยของพวกเขาออกมาเป็นแนวคิดสั้นๆ ว่า “การสูญเสียยิ่งใหญ่กว่าการได้รับ (losses loom larger than gains” (Kahneman & Tversky, 1979))”

ทฤษฎีดังกล่าวอธิบายได้ด้วยกราฟนี้

Loss Aversion Graph
กราฟแสดงความรู้สึกจากการสูญเสียและการได้รับ ตามทฤษฎีความคาดหวังและการเกลียดชังความสูญเสีย | แหล่งข้อมูล Economicshelp

จะเห็นได้ว่าเงินจำนวน 100 ดอลลาร์จะส่งผลต่อความรู้สึกเราไม่เท่ากันในกรณีที่สูญเสียและในกรณีที่ได้รับ หากเราได้รับเราจะรู้สึกมีความสุขประมาณหนึ่ง แต่ถ้าหากเราสูญเสียเงิน 100 ดอลลาร์ ที่เราเคยเป็นเจ้าของ เราจะรู้สึกมีความทุกข์มากกว่าการได้รับประมาณสองเท่า

Loss Aversion สามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเรา ความกลัวที่จะสูญเสียอาจปิดกั้นเราจากความเสี่ยงที่คำนวณมาอย่างดีว่าการลงทุนนี้คุ้มที่จะเสี่ยงและมีโอกาสที่จะสร้างกำไรอย่างมากให้กับเรา

วิธีการหลีกเลี่ยง : วิธีการหลีกเลี่ยงในข้อนี้ค่อนข้างคล้ายกับเวลาที่เรามั่นใจมากเกินไป เพราะในกรณีของ Loss Aversion เราก็กำลังกลัวมากเกินไป ฉะนั้นลองพิจารณาเรื่องความเสี่ยงให้มาก ดูว่าเรารับได้ไหม ถ้าเราสูญเสียเราจะเป็นอย่างไร ถ้าเราพลาดเรายังไปต่อได้ไหม

Familiarity Bias | อคติจากความคุ้นเคย

งานวิจัยของชิพ ฮีท (Chip Heath) และเอมอส ทเวิร์สกี (Amos Tversky) ได้ทดลองให้ผู้คนเลือกพนันในสองตัวเลือก และก็พบคนเรามักจะมีแนวโน้มที่จะเลือก ‘พนันกับสิ่งที่คุ้นเคยมากกว่า’ แม้ว่าโอกาสชนะต่ำกว่าก็ตาม
นั่นเป็นเพราะว่าการคิดวิเคราะห์ สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยนั้น เป็นเรื่องยากที่ใช้พลังงานมาก นักลงทุนส่วนใหญ่จึงมักโน้มเอน ศึกษาและลงทุนในสิ่งที่คุ้นเคยมากกว่า เช่น หุ้นที่เคยเห็นมาก่อน เหรียญที่เคยใช้มาก่อน หรือสินค้าที่เราเคยใช้ แน่นอนว่าก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรอะไร และหลายครั้งก็เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่เราเข้าใจมากกว่าคนอื่นๆ ในตลาด เพราะเราคุ้นเคย และเคยใช้บริการ ทำให้การประเมินต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น

แต่… ถ้าเราเลือกการลงทุนจากสิ่งที่คุ้นเคยเป็นหลัก และสิ่งที่เราคุ้นเคยนั้นไม่ใช่อุตสาหกรรมที่มีอนาคตอีกต่อไปแล้วล่ะ

วิธีหลีกเลี่ยง : อย่างแรกเลยคือเราต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า ‘สิ่งที่คุ้นเคย’ ไม่เท่ากับ ‘ดี’ เสมอไป และลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองศึกษาในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ไม่คุ้นเคยดูบ้าง เพราะบางครั้งโอกาสก็อาจจะอยู่นอกวงจากสิ่งที่เรารู้สึกคุ้นเคย

Herding Behavior | การทำตามฝูงชน

ถ้าหากว่าเรากำลังเดินผ่านร้านอาหารสักหนึ่งแห่ง และเห็นว่ามีคนต่อแถวเข้าคิวและมุงกันอยู่ เป็นธรรมดาที่เราจะต้องเผลอคิดไปในใจว่า ‘ร้านนี้ต้องอร่อยแน่’ แม้ว่าเราจะไม่เคยกินร้านนั้น และไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับร้านนั้นเลย ซึ่งพฤติกรรมทางจิตวิทยานี้เองที่เรียกว่า Herding Behavior หรือ ‘พฤติกรรมการทำตามฝูงชน’

Herding Behavior
Herding Behavior หรือพฤติกรรมการลงทุนตามคนอื่นโดยไม่หาข้อมูลเอง ทำให้เกิดอาการ Fomo และนำไปสู่การขาดทุน

และบางครั้งนักลงทุนเองก็มีพฤติกรรมการทำตามฝูงชนด้วยเช่นกัน (ทั้งที่จงใจตามและตามโดยไม่รู้ตัว) ซึ่งหลายคนน่าจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว เช่น กับหุ้นหรือเหรียญตัวที่เป็นกระแสมากๆ แล้วคนก็แห่เข้าไปซื้อ เข้าไปไล่ราคากัน เพราะรู้สึกว่า ‘ใครๆ ก็ทำกัน’ หรือ ‘ใครๆ ก็ซื้อตัวนี้’

ยิ่งถ้ามีแรงเชียร์จากบรรดาเซียน หรือ influencer ด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะการซื้อตามๆ กัน ไม่ว่าจะซื้อตามเซียน ตามคนดัง หรือซื้อตามกระแสนั้น มีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้นักลงทุนสามารถกำไรและอยู่ในตลาดได้นาน (ถ้าได้ก็ต้องเรียกได้ว่าโชคดีสุดๆ) เพราะการซื้อตามโดยส่วนใหญ่นั้น ผู้ซื้อแทบไม่มีข้อมูลหรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเข้าซื้อเพราะอะไร จะถือนานแค่ไหน ถ้าเหตุการณ์เปลี่ยนจะทำอย่างไร

วิธีการหลีกเลี่ยง : ถ้าเราเจอหุ้นหรือเหรียญที่รู้สึกว่าตัวนี้ใครๆ ก็เล่น ใครๆ ซื้อ และรู้สึกว่าอยากขึ้นรถมากๆ เพราะกลัวที่จะตกรถ ให้ถามตัวเองเลยว่า เรามีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับสิ่งนี้บ้าง เราวางแผนที่จะเข้าซื้อในราคาไหน ออกเมื่อไหร่ ถ้าผิดพลาดจะทำอย่างไร อย่าเพิ่งรีบกระโดดขึ้นรถโดยที่ไม่รู้ปลายทาง เพราะบางครั้งรถที่เรากำลังจะขึ้นนั้นอาจจะขับพาเราลงเหวก็ได้

ทั้งหมดนี่คือ 7 กับดักทางจิตวิทยาที่นักลงทุนต้องหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอๆ ว่าเรากำลังติดกับดักเหล่านี้อยู่หรือไม่ เพราะเรื่องของการลงทุน และเรื่องของจิตวิทยานั้นเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออกจริงๆ

เหมือนกับที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) เคยกล่าวไว้ว่า “If you cannot control your emotions, you cannot control your money – ถ้าคุณควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ คุณก็ควบคุมเงินของคุณไม่ได้เช่นกัน”

References: Investopedia(1), Investopedia(2), Investopedia(3), Investopedia(4), Investopedia(5), Morningstar, Thedecisionlab, Currency


Credits
Content Creator : ประเสริฐ หงษ์สุวรรณ, กนกศักดิ์ เรือนทอง
Graphic Designer : ศุภัชฌา ใช้สติ
Admin : ณิชากร วิทยาวิวัฒน์สกุล
Editor : ประเสริฐ หงษ์สุวรรณ
Enter to Start Team
Enter to Start Teamhttps://entertostart.co
ทีมคนสร้างสื่อที่ตั้งใจจะสร้างพื้นที่แห่งการแบ่งปันข้อมูลในโลกธุรกิจ การลงทุน และคริปโต เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ ผ่านคอนเทนต์ที่ย่อยง่าย เข้าใจได้ไม่ยาก

เรื่องยอดนิยมวันนี้

เรื่องยอดนิยม 7 วัน

เรื่องยอดนิยมวันนี้ | POPPULAR TODAY

เรื่องยอดนิยม 7 วัน | POPPULAR IN 7 DAYS

Bitcoin ETF มีเงินไหลเข้าสุทธิมากสุดในรอบ 30 วัน แม้ร่วงถึง 54,000 ดอลลาร์ ไม่กี่วันก่อน

แม้ไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคา Bitcoin จะร่วงลงต่ำถึง 54,000 ดอลลาร์ หรือลดลงประมาณ 25% จากจุดสูงสุดที่กว่า 73,000 ดอลลาร์ ในเดือนมีนาคม แต่ spot Bitcoin ETF กลับมีเงินไหลเข้าสุทธิ 143 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 5 กรกฎาคม มากที่สุดในรอบ...

Flood ระดมทุน 5.2 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Seed นำโดย Bain Capital Crypto 

Flood ซึ่งเป็น decentralized exchange (DEX) aggregator ที่เน้น Ethereum ecosystem ระดมทุน 5.2 ล้านดอลลาร์ ในการระดมทุนรอบ seed นำโดย Bain Capital Crypto โดยมี Archetype และ Robot Ventures เข้าร่วมในการระดมทุนด้วย Francesco...

Bitcoin spot ETF จะพลิกโฉมตลาด Bitcoin ได้จริงไหม?

KEY TAKEAWAYS ในอดีต กองทุนรวมทองคำ (Gold ETF) เคยช่วยให้ตลาดทองคำคึกคัก และมีนักลงทุนเข้ามามากขึ้น กองทุนรวม Bitcoin (Bitcoin spot ETF) ก็อาจช่วยให้นักลงทุนเข้ามาในตลาด Bitcoin มากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดในการเพิ่มสภาพคล่องได้ กองทุนรวมทองคำ (Gold ETF) เคยเขย่าตลาดมาแล้ว และกองทุนรวม Bitcoin (Bitcoin spot ETF) ก็สามารถทำได้เช่นกัน เราสามารถนำสถานการณ์...

ผู้ก่อตั้งบริษัท SlowMist เตือน TON กำลังถูกโจมตีด้วยการฟิชชิงจำนวนมาก

Yu Xian ผู้ก่อตั้งบริษัท SlowMist ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยบล็อกเชนออกมาเตือนว่า The Open Network (TON) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่เชื่อมต่อกับ Telegram กำลังเผชิญกับการโจมตีแบบฟิชชิงมากขึ้น Xian กล่าวว่า TON ecosystem ซึ่งประกอบด้วยแอปพลิเคชันแบบ decentralized (DApps) และโทเคนต่าง ๆ บนบล็อกเชน TON กำลังตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีแบบฟิชชิงมากขึ้น ขณะกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปี...

Bitcoin ราคาพุ่งเกือบ 3% หลัง Javier Milei คว้าชัยเลือกตั้งปธน.อาร์เจนตินา

ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นเกือบ 3%ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเพิ่มแตะ 37,350 ดอลลาร์ หลัง Javier Milei ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอาร์เจนตินาคนใหม่

Tether ประกาศยุติ Mint เหรียญ USDT บน Eos และ Algorand

Tether บริษัทผู้ออก Stablecoin รายใหญ่ ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะหยุดสร้าง (Mint) USDT บนบล็อกเชนของ Eos และ Algorand ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน เป็นต้นไป ทั้งนี้ หลังจากยุติ Mint เหรียญแล้ว Tether จะยังคงให้บริการแลกเปลี่ยน USDT บน Eos และ...

Traction Hosts Next: Crypto First Journey Event

This event was held at Siam Paragon, on the 4th floor in the SCBx Next Tech zone, targeting both experienced and novice individuals in...

Traction จัดงาน Next: Crypto First Journey  🚀ร่วมกับ Siam Paragon, Thai Fintech Association (TFA), Binance TH Academy และ Peace Venture

โดยงานครั้งนี้จัดขึ้นที่สยามพารากอน ชั้น 4 โซน SCBx Next Tech สำหรับทั้งผู้มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ในโลกคริปโต เพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซี และวิธีการจะเริ่มต้นลงทุน พร้อมรับฟังแนวคิดและมุมมองอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอลจากผู้บริหารบริษัทชั้นนำ พบกับมุมมองของเด็กรุ่นใหม่ว่าทำไมคริปโทเคอร์เรนซีถึงน่าสนใจ พร้อมประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพตัวเองแต่ก็ยังตัดสินใจเข้ามายังโลกคริปโต ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจและเข้าร่วมงาน Next: Crypto First Journey 🚀 งาน Next ครั้งแรกของพวกเรา ด้วยความตั้งใจของ Traction ร่วมกับ Binance...

คุณมี Hamster เป็นของตัวเองรึยัง?

ถ้ายัง มาดูกันเลยว่าต้องเตรียมอะไรไว้บ้าง จัดเตรียมที่อยู่: Hamster ต้องการพื้นที่ที่กว้างพอจะให้สามารถวิ่งเล่นและปีนป่ายไปมาได้ (แต่ไม่ต้องถึงขนาดคลิปที่แต่งบ้านให้ Hamster หรอกนะ) และต้องระบายอากาศได้ดี อยู่ในที่ที่เงียบ เพราะ Hamster ค่อนข้างจะขี้ตกใจ ฐานรองกรง: มีไว้เพื่อระบายกลิ่น ซับของเสีย และไว้ให้ Hamster ขุดเล่น โดยควรเลือกที่รองกรงเป็นวัสดุธรรมชาติ  บ้าน Hamster: เลี้ยงสัตว์ก็ต้องมีบ้านไว้ให้นอนอยู่แล้ว และอย่าลืมหาอะไรนุ่ม ๆ ปูไว้ให้ Hamster...

เดือดโว้ย! ผู้เล่น Catizen ด่าไม่ยั้ง หลังทีมงานเปลี่ยนเกณฑ์แจก Airdrop โดยไม่แจ้ง

เรียกว่ากลายเป็นประเด็นเลยทีเดียว หลังจากที่ Catizen เกมคาเฟ่แมวชื่อดังบน Telegram ทำการแจก Airdrop เสร็จสิ้น เพราะหลายคนมองว่ามันช่างน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ นำมาซึ่งเสียงบ่น ด่า โวยวาย เรียกร้องให้ทีมงานคำนวณใหม่ ซึ่งตามมาด้วยการแถลงการณ์ชี้แจงจากทีมงาน… ซึ่งการแถลงดังกล่าวเหมือนจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก เพราะมีการเปลี่ยนเกณฑ์แจก Airdrop โดยไม่แจ้งซะอีก ดราม่านี้เป็นยังไง เริ่มจากอะไร จบที่ตรงไหน ไปไล่ดูกันเล้ย ทำความรู้จัก Catizen Catizen เป็นเกมเปิดคาเฟ่แมวบน Telegram...

มาลุ้นรับ Airdrop กับ KatKafe เกมเปิดคาเฟ่แมว (จริง ๆ นะ) กันเถอะ!

KatKafe 🐱@katkafeofficial KatKafe เกมแนว Idle บน Telegram โดยเราจะได้เล่นเป็นเจ้าของคาเฟ่แมว … แต่ไม่ใช่คาเฟ่แมวแบบเดิม ๆ ที่คุณรู้จัก เพียงแต่เป็นคาเฟ่ที่มีพนักงานและลูกค้าเป็นแมว!!!  แถมตอนนี้ยังมีกิจกรรมลุ้นรับ Airdrop ครั้งแรก รางวัลรวม 6,000 ดอลลาร์เลย! ซึ่งจะมีรายละเอียดให้ท้ายโพสต์ ใครสนใจ อยากได้อยากลุ้น อยากเล่น พร้อมแล้วไปกันเล้ย วิธีเล่นง่าย ๆ ตามนี้ ●...

เป็นไปได้ไหมที่ Toncoin จะร่วงอีก 30% ในเดือนนี้?

เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Toncoin (TON) เผชิญวิกฤติสำคัญและทำให้ราคาร่วงกว่า 25% นั่นคือการที่ Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram ถูกจับกุมตัวที่ฝรั่งเศสในวันที่ 24 สิงหาคม ส่งผลให้ TON ร่วงลงเรื่อย ๆ และลงไปถึง 4.45 ดอลลาร์ ในวันที่ 6 กันยายน ก่อนจะดีดตัวกลับ...

บทความที่เกี่ยวข้อง | RELATED ARTICLE

อยากรวยอ่านตรงนี้! เปิด 7 วิธีรับคริปโตฟรี ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

KEY TAKEAWAYS เปิด 7 วิธีรับคริปโตฟรี ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น Crypto Faucet, Airdrop, Staking, การแนะนำผู้อื่น (referral program), ทำแบบสำรวจ การหาบัค และการเทรดแข่งกัน อย่างไรก็ตาม ทุกวิธีข้างต้นล้วนมีความเสี่ยง ผู้สนใจ อยากรวยอ่านตรงนี้! เปิด 7 วิธีรับคริปโตฟรี ทำง่าย...

พลังของ Network Effect

อะไรทำให้โปรเจกต์คริปโตบางตัวเป็นที่นิยม ในขณะที่บางตัวไม่ ? อาจจะบอกได้ว่าเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมักจะเป็นผู้ชนะ แต่ความจริงนั้นซับซ้อนกว่ากันเล็กน้อย ในบางครั้ง โปรเจกต์ที่มีความกว่าพร้อมของเทคโนโลยีน้อยกว่า กลับกลายเป็นผู้ชนะ เพราะว่าเปิดให้บริการในช่วงเวลาที่เหมาะสม และนี้คือความมหัศจรรย์ของ Network Effect สรุปแล้ว Network Effect คืออะไร ? นึกภาพของสินค้าหรือบริการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีผู้ใช้จำนวนมากขึ้น นั้นแหละคือ Network Effect ผู้ใช้ใหม่ทุกคนเข้าร่วมเพื่อที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับเครือข่าย กระตุ้นให้มีผู้ใช้หน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ลองนึกถึงตอนที่โทรศัพท์เป็นของใหม่สำหรับเรา เมื่อก่อนมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้ใช้มัน หลังจากนั้น...

คู่มือการสร้าง Portfolio ที่สมดุลสำหรับมือใหม่

ก้าวแรกในการเข้าสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัลนั้นทำได้ง่าย เพียงแค่เราก็ซื้อ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) หรือคริปโตอื่นๆ ที่เราชอบ บางคนอาจจะชอบพวกเหรียญใหญ่ๆ ในขณะที่บางคนอาจชอบที่จะไปตะลุยกับบรรดา Altcoins หรือ Meme coins  แล้วเราจะดูได้ยังไงว่าแบบไหนดีที่สุด ? เราจะประสบความสำเร็จได้ดีที่สุดด้วยการพิจารณา กระจายการลงทุนอย่างรอบคอบ และหมั่นสร้างสมดุลให้กับพอร์ตคริปโตของเรา ซึ่งมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด วันนี้มาดูกันเลย Portfolio คืออะไร ? โดยพื้นฐานแล้ว พอร์ตโฟลิโอของคริปโต คือการแบ่งประเภทของสกุลเงินดิจิทัลที่เราลงทุน...

FUD , FOMO , HODL!! 12 คำศัพท์ ที่ชาวคริปโตควรรู้

ถึงมือใหม่ที่พึ่งเข้ามาในตลาด และบรรดามือเก่ามือเก๋าทุกท่าน เมื่อเข้ามาสู่โลกของคริปโตเคอร์เรนซีแล้ว เราอาจจะได้เห็นคำศัพท์หรือตัวย่อแปลกๆ มากมาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ และมันสำคัญพอสมควรเลยที่คุณจะรู้คำศัพท์เหล่านี้ จะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในโลกคริปโต 1. FUD (Fear, Uncertainty, and Doubt) FUD เป็นตัวย่อของคำสามคำคือ Fear ความกลัว, Uncertainty ความไม่แน่นอน และ Doubt ความสงสัย ในโลกของคริปโต FUD คือข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม...

ถอดรหัส : อะไรทำให้ Bitcoin มีค่า ?

การเริ่มต้นในโลกคริปโต อาจจะเหมือนเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เดี๋ยวก็บล็อกเชน เดียวก็การขุด เดี๋ยว Decentralized อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด สำหรับมือใหม่ สิ่งที่อาจจะสงสัยกันมากที่สุดก็คือ ทำไมกันนะ ทำไม Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลที่เราไม่สามารถจับต้องได้ ถึงมีค่ากัน  Bitcoin เป็นเหมือนเงินประเภทหนึ่ง เช่นเดียวกับเงินที่เราเอาไว้ซื้อข้าว มูลค่าของ Bitcoin ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ ลองนึกดูละกัน กระดาษในกระเป๋าของเรา ไม่มีมูลค่าใดๆ เลยในตอนแรก แต่มูลค่าของมันเกิดจากการที่ทุกคนยอมรับว่ามันมีค่า...

12 แนวคิดที่จะทำให้คุณก้าวผ่านอุปสรรคในปี 2023

12 แนวคิดที่แปรความออกมาเป็นภาพกราฟฟิคที่ย่อยง่าย โดย Visualize Value เมื่อรู้สึกว่าชีวิตไม่เป็นอย่างที่หวัง ให้ย้อนกลับมาดูอีกครั้ง

Black Monday วันตลาดหุ้นถล่ม

Black Monday คือวันที่แย่สุดๆ ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งหมายถึงวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม ปี 1987 ซึ่งในวันนั้น ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ลดลงมากถึง 22% ภายในวันเดียว เหตุการณ์ความปั่นป่วนทางการเงินครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์เพียงครั้งเดียว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นมีการดิ่งลงครั้งใหญ่ถึงสองครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า Black Monday มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการเริ่มต้นการชะลอตัวของตลาดทั่วโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ระบบคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้นจึงต้องทำงานอย่างหนัก เกิดความล่าช้าอย่างมาก จนไม่สามารถทำการจับคู่คำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างมหาศาลให้สำเร็จครบถ้วนได้ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง | RELATED NEWS

ทำความรู้จัก THENA (THE) โปรเจกต์ DEX บน BNB

THENA คืออะไร Thena (THE) คือ Decentralized Exchange (DEX) บนเครือข่าย BNB Chain โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ดังนี้ THENA: เป็น Spot DEX ที่สามารถ Swap, ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล และสร้าง Passive Income ได้ ALPHA: เป็น...

BINANCE TH เปิดให้เทรด Thena (THE) ได้แล้ววันนี้ ที่แรกและที่เดียวในไทย!

BINANCE TH ประกาศเปิดให้นักเทรดคริปโตไทยสามารถซื้อขาย Thena (THE) ได้แล้ววันนี้ (9 ธันวาคม 2024) โดยเปิดคู่เทรด 4 คู่ ดังนี้ THE/BNB, THE/BTC, THE/FDUSD, THE/USDT และยังสามารถเทรดผ่าน Easy Buy/Sell ด้วยเงินบาทได้ด้วย เรียกว่าอำนวยความสะดวกให้เทรดเดอร์คริปโตไทยกันสุด ๆ  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.binance.th/th/announcement/new-cryptocurrency-listing%7Cdelisting/8a637343e6a7451bb30f786d235dbf8f  ทั้งนี้...

ทำความรู้จัก Usual (USUAL) ผู้ออก Stablecoin แบบ Decentralized

Usual (USUAL) เป็นผู้ออก Fiat Stablecoin (Stablecoin ที่ผูกกับค่าเงิน Fiat) แบบ Decentralized โดย ที่ให้ผู้ถือ USUAL ได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของและการกำกับดูแลโปรเจกต์ด้วย ขณะเดียวกัน USUAL ยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนแบบ Multi-Chain ซึ่งรวมสินทรัพย์โลกจริง (RWA) ที่ถูกทำเป็นโทเคนจากบริษัทดัง ๆ มากมาย เช่น BlackRock,...

ทำความรู้จัก THENA (THE) โปรเจกต์ DEX บน BNB

THENA คืออะไร Thena (THE) คือ Decentralized Exchange (DEX) บนเครือข่าย BNB Chain โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ดังนี้ THENA: เป็น Spot DEX ที่สามารถ Swap, ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล และสร้าง Passive Income ได้ ALPHA: เป็น...

BINANCE TH เปิดให้เทรด Thena (THE) ได้แล้ววันนี้ ที่แรกและที่เดียวในไทย!

BINANCE TH ประกาศเปิดให้นักเทรดคริปโตไทยสามารถซื้อขาย Thena (THE) ได้แล้ววันนี้ (9 ธันวาคม 2024) โดยเปิดคู่เทรด 4 คู่ ดังนี้ THE/BNB, THE/BTC, THE/FDUSD, THE/USDT และยังสามารถเทรดผ่าน Easy Buy/Sell ด้วยเงินบาทได้ด้วย เรียกว่าอำนวยความสะดวกให้เทรดเดอร์คริปโตไทยกันสุด ๆ  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.binance.th/th/announcement/new-cryptocurrency-listing%7Cdelisting/8a637343e6a7451bb30f786d235dbf8f  ทั้งนี้...

ทำความรู้จัก Usual (USUAL) ผู้ออก Stablecoin แบบ Decentralized

Usual (USUAL) เป็นผู้ออก Fiat Stablecoin (Stablecoin ที่ผูกกับค่าเงิน Fiat) แบบ Decentralized โดย ที่ให้ผู้ถือ USUAL ได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของและการกำกับดูแลโปรเจกต์ด้วย ขณะเดียวกัน USUAL ยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนแบบ Multi-Chain ซึ่งรวมสินทรัพย์โลกจริง (RWA) ที่ถูกทำเป็นโทเคนจากบริษัทดัง ๆ มากมาย เช่น BlackRock,...

นักวิเคราะห์คาด Bitcoin ยังไม่ ATH เร็ว ๆ นี้ หลังความเชื่อมั่นตลาดพุ่งสูงเกิน

Santiment แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Onchain เปิดเผยว่า Bitcoin ไม่น่าจะทำ All-Time High เร็ว ๆ นี้ เพราะต้องรอให้ตลาดลดความคาดหวังลงก่อน หลังความเชื่อมั่นใจตลาดคริปโตอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน Santiment ระบุว่า ข้อมูลความเชื่อมั่นต่าง ๆ บนโซเชียลในตอนนี้ มีโพสต์ที่เป็น Bullish ต่อ Bitcoin 1.8 โพสต์ ต่อโพสต์ที่เป็น...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

Save Settings