KEY TAKEAWAYS
- FED ได้ผลักดันให้มีกฎระเบียบกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น
- ทีมวิจัยของ FED ได้เผยแพร่งานวิจัยที่กล่าวถึงกฎระเบียบโดยได้แนะนำว่าบริษัทที่จัดสรรเงินทุนของนักลงทุนต้องมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น
- งานวิจัยยังได้สรุปว่าระบบนิเวศของคริปโตถือว่ามีแนวโน้มที่จะมีช่องโหว่ทางการเงิน รวมถึงเสถียรภาพทางการเงินนั้นไม่มั่นคง ทำให้เกิดความเสี่ยง
ทีมวิจัยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve : FED) เผยแพร่งานวิจัยสองฉบับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับการสำรวจการเงินไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Finance) และการแตกแขนงของสินทรัพย์ดิจิทัล
FED ได้ผลักดันให้มีกฎระเบียบกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น โดยเฉพาะในการเชื่อมโยงคริปโตกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม เอกสารงานวิจัยยังได้กล่าวถึงกฎระเบียบโดยได้แนะนำว่าบริษัทที่จัดสรรเงินทุนของนักลงทุนต้องมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น
งานวิจัยนี้ยังได้สรุปว่าระบบนิเวศของคริปโตถือว่ามีแนวโน้มที่จะมีช่องโหว่ทางการเงิน รวมถึงเสถียรภาพทางการเงินนั้นไม่มั่นคง ทำให้เกิดความเสี่ยง เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ให้บริการทางการเงินได้อย่างครบถ้วน รวมถึงการเชื่อมโยงคริปโตกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมนั้นมีข้อจำกัด และความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินนี้อาจเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต
“หากระบบการเงินดิจิทัลเชื่อมกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้นหรือขยายการให้บริการทางการเงินมากขึ้น อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน”
งานวิจัยเรื่อง Decentralized Finance (DeFi): Transformative Potential & Associated Risks ได้อธิบายถึงภาพรวมคร่าวๆ ของระบบนิเวศ DeFi มันทำให้ทราบถึงการเติบโตของวงการคริปโต และยังได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินในอนาคต
“การให้บริการทางการเงินบนพื้นที่สาธารณะแบบ permissionless มีมานานแล้วตั้งแต่ Bitcoin (BTC) เกิดขึ้น แต่ DeFi ยังไปไม่ถึงขั้นที่มีความสำคัญอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตามการเติบโตอย่างรวดเร็วของ DeFi ทำให้หน่วยงานที่มีหน้าที่กำหนดกฎระเบียบควบคุมต้องเริ่มพิจารณาอย่างจริงจังถึงปัญหาความมั่นคงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นหาก DeFi เริ่มเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างเป็นระบบ”
งานวิจัยยังได้กล่าวสรุปว่า “ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายแบบดั้งเดิมต้องพิจารณาว่าสินทรัพย์ใด (เช่น ดอลลาร์และหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน) ควรอนุญาตให้ใช้งานบนบล็อกเชน แต่ DeFi สามารถเข้าไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องคำนึงถึงกฎระเบียบ นอกจากนี้ DeFi กำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการเกี่ยวกับเงินดิจิทัล หากหน่วยงานกำกับดูแล (รวมถึง FED) ตั้งกฎหมายและระเบียบข้อบังคับโดยขาดความเข้าใจที่มากพอ อาจทำให้การเติบโตของ DeFi หยุดชะงัก”
งานวิจัยสองฉบับนี้ของ FED รวบรวมเนื้อหางานวิจัยก่อนๆ ที่ทีมวิจัยของ FED เผยแพร่มาก่อนจนถึงปัจจุบัน หัวข้อก่อนๆ ที่เคยวิจัยนั้นเกี่ยวกับ stablecoin ทั้งความเสี่ยงและผลตอบแทนจากการใช้ stablecoin ในวงกว้าง รวมถึงพฤติกรรมการใช้เงินดิจิทัลของชาวอเมริกัน
Reference : Theblock