KEY TAKEAWAYS
- ตลาดหมีหมายถึงการที่ราคาคริปโตในตลาดลดลงอย่างน้อย 20% จากราคาสูงสุดและมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง
- 4 ช่วงของตลาดหมี ได้แก่ ช่วงแห่งการยอมรับ ช่วงแห่งความตื่นตระหนก ช่วงแห่งความเสถียร และช่วงแห่งความหวัง
- โอกาสทำกำไรช่วงตลาดหมีคือการช้อนซื้อคริปโตช่วงราคาถูกมาถือ และการเปิดสถานะ ‘ชอร์ต (short)’
- การคาดเดาการสิ้นสุดของตลาดหมีเป็นไปได้ยาก เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อตลาดคริปโต
หลังจากการล่มสลายของเหรียญ stablecoin อย่าง TerraUSD มันก็ได้พาทั้งวงการคริปโตเข้าสู่ตลาดหมีและส่งคลื่นความหนาวเย็นปกคลุมไปทั่ว Crypto Winter แต่หากลองสังเกตให้ดีจะพบว่าเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน ตลาดก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงความรู้สึกของนักลงทุนก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเหมือนตอนที่เริ่มเข้าสู่ตลาดหมีใหม่ๆ แล้ว นั่นก็เพราะมันได้เปลี่ยนช่วงหรือ phase ของตลาดช่วงขาลงแล้วนั่นเอง
ตลาดหมีหมายถึงการที่ราคาคริปโตในตลาดลดลงอย่างน้อย 20% จากราคาสูงสุดและราคามีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่มาของการนำคำว่าหมีมาอธิบายลักษณะตลาดช่วงขาลงนั้นไม่แน่นอน บางคนคาดว่าคำนี้มาจากลักษณะเวลาที่หมีโจมตีเหยื่อมันจะตวัดอุ้งเท้าของมันลงและทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดของมันลงมา แต่บางคนก็ว่าหมีจะจำศีลในฤดูหนาว จึงนำมาใช้อธิบายตลาดในช่วงขาลง ที่สถานการณ์ดำเนินไปอย่างไม่คึกคักเท่าไหร่นัก
ตลาดหมีจะประกอบไปด้วย 4 ช่วง (phase)
- Phase 1 Recognition | ช่วงแห่งการยอมรับ
ช่วงนี้นักลงทุนส่วนใหญ่จะมองตลาดในแง่ดี และมักจะเพิกเฉยต่อสัญญาณต่างๆ ที่บ่งบอกว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงภาวะขาลง และคิดไปว่าราคาที่เริ่มร่วงลงเป็นแค่ความผันผวนในแต่ละวัน เมื่อเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงท้ายๆ ของ phase นี้ นักลงทุนบางส่วนจะเริ่มรู้ว่าตลาดหมีกำลังเกิดขึ้นและเริ่มขายสินทรัพย์ที่ตัวเองถืออยู่
- Phase 2 Panic | ช่วงแห่งความตื่นตระหนก
ช่วงนี้ราคาของคริปโตมีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็ว ธุรกรรมการซื้อขายรวมถึงกำไรของบริษัทเริ่มลดลง ปริมาณการซื้อขายน้อย ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างมาก นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการยอมจำนน (capitulation)
- Phase 3 Stabilization | ช่วงแห่งความเสถียร
นักลงทุนเริ่มเข้าใจสาเหตุที่ราคาสินทรัพย์ตก การเทขายแบบตื่นตระหนกเริ่มลดลง ช่วงนี้จะกินเวลานานมากในภาวะตลาดช่วงขาลง อาจจะมีแนวโน้มดีขึ้นบ้างเมื่อมีนักเก็งกำไรเริ่มกลับเข้ามาในตลาด
- Phase 4 Anticipation | ช่วงแห่งความหวัง
ราคาของคริปโตดิ่งไปถึงจุดต่ำสุดแล้วเริ่มกลับมาดีขึ้น เริ่มมีข่าวดีและสร้างความหวังให้นักลงทุน จนนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง
โอกาสทำกำไรในช่วงตลาดหมี และคำถามสำคัญ ‘เมื่อไหร่ตลาดหมีจึงจะสิ้นสุด?’
โรเบิร์ต คิโยซากิ (Robert Kiyosaki) นักเขียนหนังสือขายดีอย่างเรื่อง ‘Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยสอนลูก)’ กล่าวว่า ‘คุณทำกำไรได้เมื่อคุณซื้อ ไม่ใช่เมื่อคุณขาย’ ดังนั้นในช่วงตลาดขาลงซึ่งราคาของคริปโตตกลงอย่างมากจึงเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนในระยะยาวที่จะช้อนซื้อคริปโตมาถือ และเมื่อตลาดดีขึ้น ราคาคริปโตดีดตัวกลับมา (หมายถึงถ้าตัวที่เราซื้อมันกลับมาได้จริงๆ นะ) เราก็สามารถที่จะทำกำไรจากการลงทุนนี้ได้
WOW:Words of Wisdom. “Your profits are made when you buy, not when you sell.” Price of Bitcoin crashing. Great news. I bought BC at $6K and 9K. I will buy more if and when BC tests $20k. Time to get richer is coming. Silver best bargain today. Silver still 50% below high.
— therealkiyosaki (@theRealKiyosaki) January 24, 2022
แต่สำหรับนักลงทุนระยะสั้นก็สามารถสร้างกำไรจากการลดลงของราคาคริปโตได้ ซึ่งเรียกว่าการเปิดสถานะ ‘ชอร์ต (short)’ ซึ่งก็คือการลงเดิมพันว่าราคาของคริปโตจะลดลง แต่ก็แน่นอนว่าถ้าราคาของมันไม่เป็นอย่างที่เราคาดการณ์ เราคิดว่ามันจะลง แต่ราคามันกลับดีดขึ้น เราก็จะเสียเงินลงทุน (ขอยกประโยคนี้มาอีกครั้ง ‘การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน’)
และคำถามสำคัญที่หลายๆ คนอยากรู้ ‘แล้วเมื่อไหร่ตลาดหมีจึงจะจบลง’ วงการคริปโตจึงจะกลับมาคึกคัก และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะยิ้มกว้างได้อีกครั้ง คำถามนี้เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดามาก เพราะมันมีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่ล้วนส่งผลต่อตลาดคริปโต ตั้งแต่ เศรษฐกิจโลก จิตวิทยาของนักลงทุน ข่าวต่างๆ ร่วมไปถึงเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆ (คือ เกือบทุกเรื่องนั้นล่ะ)
อย่างไรก็ตาม ตลาดหมีที่เรากำลังเผชิญไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน มันเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยและนับเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรเศรษฐกิจคริปโต สิ่งที่นักลงทุนทำได้ก็คือยอมรับและเรียนรู้ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ให้ดีที่สุดนั่นเอง
References : Investopedia, Corporatefinanceinstitute, Coinbase